“สมศักดิ์” แจงคำวินิจฉัยผู้ตรวจการแผ่นดิน ปมแก้ปัญหารุกอุทยานฯ ทับลาน ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน-เอื้อประโยชน์นายทุน ยันศึกษาข้อเท็จจริง ยึดข้อ กม.ครบถ้วนก่อนมีข้อเสนอแนะ
วันนี้ (20 ก.พ.) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีมีการกล่าวอ้างเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี ที่ผ่านกระบวนการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มบุคคลที่ได้ที่ดินมาโดยการซื้อขายเปลี่ยนมือ หรือใช้ประโยชน์ในที่ดินขัดต่อวัตถุประสงค์ของกฎหมาย โดยเป็นผลมาจากคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินที่เสนอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แก้ไขปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานนั้น ข้อเท็จจริง เรื่องดังกล่าวประชาชนในพื้นที่อำเภอปักธงชัย อำเภอเสิงสาง อำเภอครบุรี และอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ได้ยื่น เรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อปี พ.ศ. 2554 และ 2561 ว่า ได้รับความเดือดร้อนและความไม่เป็นธรรมจากกรณีที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ประกาศแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานทับซ้อนกับที่ดินที่ประชาชนอยู่อาศัยทำกินมาแต่เดิม และมีการจับกุมดำเนินคดีประชาชนโดยอาศัยเส้นแนวเขตที่บกพร่องคลาดเคลื่อน ผู้ตรวจฯจึงได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว พบว่า การกำหนดแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานทับซ้อนกับที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของราษฎรที่ได้ทำกินมาแต่เดิม เนื่องจากอุทยานแห่งชาติทับลาน จัดตั้งขึ้นมาภายหลังจากที่ประชาชนได้เข้าทำกินในพื้นที่แล้ว และได้มีคำวินิจฉัยรวมถึงข้อเสนอแนะลงวันที่ 6 ส.ค. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการแก้ไขปรับปรุงแนวเขตให้ถูกต้องตรงตามสภาพความเป็นจริง โดยยึดถือแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ปี พ.ศ. 2543 ที่ผ่านการสำรวจรังวัดร่วมกันของทุกภาคส่วนแล้ว และตราพระราชกฤษฎีกาให้เกิดผลใช้บังคับในทางกฎหมาย และเมื่อเกิดความชัดเจนของแนวเขตที่ดินของรัฐแล้ว พื้นที่ที่ถูกกันออกจากเขตอุทยานฯ ให้กรมป่าไม้ดำเนินการเพื่อยกเลิกเขตป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่า เพื่อการอนุรักษ์ และส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้ ส.ป.ก. เพื่อจัดสรรให้ประชาชนตาม กฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ต่อมา ครม. มีมติเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 64 กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินของราษฎรบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมความเห็นและข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งดำเนินการตาม มาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเร่งดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาของผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีผลกระทบต่อทรัพยากร ป่าไม้ สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศน์แต่อย่างใด เนื่องจากพื้นที่ที่ราษฎรอยู่อาศัย ทำกินในปัจจุบันไม่ได้มีสภาพเป็นป่าไม้สมบูรณ์และไม่เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มบุคคลที่มิได้อยู่อาศัยทำกินมาแต่เดิมหรือใช้ประโยชน์ในที่ดินขัดต่อวัตถุประสงค์ของกฎหมาย รวมทั้งมิได้มีผลกระทบต่อคดีความต่างๆ ทั้งที่อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน อัยการ และชั้นศาล แต่อย่างใด
“ขอย้ำว่า คำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีนี้ ถือเป็นการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินในการขจัดหรือระงับความเดือดร้อน ความไม่เป็นธรรมให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยมีการพิจารณากลั่นกรองทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างครบถ้วนรอบด้าน มีการหารือถึงผลดี ผลเสีย ปัญหาและอุปสรรคของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคำนึงถึงข้อห่วงกังวลในด้านต่างๆ ด้วยความละเอียดรอบคอบ ก่อนที่จะมีข้อเสนอแนะ โดยไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้แก่บุคคลที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งกลุ่มบุคคลใด”