xs
xsm
sm
md
lg

BGRIM-คาโอหนุนพลังงานสะอาด ร่วมเซ็นสัญญาซื้อขายใบรับรอง REC

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บี.กริม เพาเวอร์” จับมือ “คาโอ” ร่วมลงนามสัญญาซื้อขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (REC) หนุนพลังงานสะอาด มุ่งสู่ Net-Zero ภายในปี 2050
 
นายนพเดช กรรณสูต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส-การลงทุน นวัตกรรม และความยั่งยืน บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ร่วมลงนามสัญญาซื้อขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate : REC) กับนายยูจิ ชิมิซึ ประธานกรรมการ บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและธุรกิจเคมีภัณฑ์ชั้นนำ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยมีผู้บริหารจากทั้งสององค์กรมาร่วมเป็นสักขีพยาน
 
นายนพเดช กรรณสูต เปิดเผยว่า บริษัทฯ จัดหาพลังงานสะอาดที่ยั่งยืนและมีเสถียรภาพสูงให้กับ คาโอ เพื่อสนับสนุนลูกค้าภาคอุตสาหกรรมในการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตของพลังงานคาร์บอนต่ำต่อไป โดยใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate : REC) นี้ มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญ ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ และพลังงานชีวมวล ซึ่งได้รับการยอมรับด้วยมาตรฐานใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียนในระดับสากล (The International REC Standard : I-REC) สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ GreenLeap - Global and Green ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่ได้ประกาศไปเมื่อต้นปี 2566 ในการมุ่งมั่นส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า คู่ค้า สังคม ประเทศชาติ และสิ่งแวดล้อม ด้วยการพัฒนาด้านพลังงานสะอาดที่ยั่งยืนและปลอดภัย เพื่อช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนไดออกไซด์ให้น้อยที่สุด
 
นายยูจิ ชิมิซึ กล่าวว่า คาโอดำเนินการด้านความยั่งยืนผ่านกลยุทธ์ ESG หรือ Kirei Lifestyle Plan ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่คุณภาพที่เราตั้งใจมอบให้ผู้บริโภคผ่านผลิตภัณฑ์ แต่เรายังดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันเสมอมา เพื่อลดผลกระทบที่จะส่งผลต่อสังคมในวงกว้าง ปัจจุบันทางโรงงานคาโอมีการจัดการพลังงานด้านต่างๆ เพื่อลดการปล่อย CO2 เช่น ด้านพลังงานไฟฟ้า การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้ากว่า 900 MWh/ปี เปลี่ยนหลอดไฟฟ้าที่ให้แสงสว่าง 100% เป็นชนิด LED และเปลี่ยนระบบแอร์เป็นระบบ Inventor ทั้งโรงงาน ซึ่งปีที่ผ่านมาประหยัดไฟไปได้กว่า 369,324 kWh/ปี

ด้านลดการใช้น้ำและก๊าซธรรมชาติ เราวางระบบเพื่อนำน้ำคอนเดนเสทที่ทิ้งจากกระบวนการถ่ายเทความร้อนนำกลับมาเพิ่มอุณหภูมิน้ำที่ป้อนก่อนเข้าบอยเลอร์ และมีการนำลมร้อนที่ปล่อยทิ้งจากกระบวนการระบายความร้อนในการผลิต มาใช้ผลิตไอน้ำแรงดันปานกลาง ทำให้ลดการใช้ก๊าซธรรมชาติที่ต้องใช้ในการผลิตไอน้ำ และการจัดหาและใช้เครื่องจักรในกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อประหยัดพลังงาน
 
“การลงนามสัญญาซื้อขายใบรับรองฯ REC จาก บี.กริม เพาเวอร์ ในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศ พร้อมพัฒนาพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับเป้าหมายของคาโอที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2040 และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นลบภายในปี 2050 ที่กำลังจะมาถึง” นายยูจิ กล่าว
 
ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 20 โครงการ และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศอีก 35 โครงการ โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มกำลังการผลิตจาก 3,338 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2022 เป็น 4,700 เมกะวัตต์ ในปี 2024 และเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2030 พร้อมก้าวสู่เป้าหมายขององค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี 2050


กำลังโหลดความคิดเห็น