"ชูวิทย์" บุก "คมนาคม" โชว์แปรงฟัน ล้างหน้าตอบโต้ "ศักดิ์สยาม" ก่อนตั้งโต๊ะสับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ล็อกสเปก เปลี่ยนเกณฑ์จาก "ดี และถูกเป็นดุลพินิจ" แต่ไม่ให้หลักฐานเงินทอน 3 หมื่นล้าน ยื่น "ศูนย์เรื่องราวร้องทุกข์" ตรวจสอบ ด้าน "คมนาคม" จ่อฟ้องกลับ
วันที่ 24 ก.พ. 2566 เวลา 13.00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้เดินทางไปยังกระทรวงคมนาคม พร้อมถือขวดสเปรย์พ่น พร้อมทั้งได้แสดงเชิงสัญลักษณ์ทั้งล้างหน้า แปรงฟัน ก่อนที่จะตั้งโต๊ะแถลงบริเวณด้านหน้ากระทรวงคมนาคม เพื่อเป็นการโต้ตอบ ที่ก่อนหน้านี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า นายชูวิทย์พูดกล่าวอ้างว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีการทุจริตและมีเงินทอน 3 หมื่นล้านบาท เพราะว่านายชูวิทย์ตื่นมาแล้วไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟัน
ขณะที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ติดราชการต่างจังหวัด ซึ่งมีกำหนดไว้ก่อนหน้าแล้ว จึงได้มอบหมายให้นางสุขสมรวย วันทนีย์กุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาส ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้รับหนังสือหากนายชูวิทย์จะยื่นเอกสารใดๆ ซึ่งนายชูวิทย์ระบุว่าจะไม่ยื่นหลักฐานให้นายศักดิ์สยาม และไม่เคยบอกว่าจะยื่นเอกสารที่กระทรวงคมนาคม ทำแบบนั้นเรื่องอะไร เพราะเป็นคนทำเรื่องนี้ แต่จะยื่นให้ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล หลังจากแถลงข่าวเสร็จ
โดยนายชูวิทย์พยายามยื่นน้ำยาบ้วนปาก ฝากให้นายศักดิ์สยาม แต่ผู้แทนไม่รับในระหว่างนั้น ได้เกิดวิวาทะระหว่างกัน เนื่องจากผู้แทน รมว.คมนาคมบอกว่าจะรับเอกสารหลักฐานเท่านั้น
ขณะที่นางสุขสมรวย วันทนีย์กุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รมว.คมนาคมเดินทางไปราชการที่ จ.สุรินทร์และบุรีรัมย์ เมื่อมีข้อมูลว่านายชูวิทย์จะเดินทางมากระทรวงฯ จึงมอบหมายให้เป็นตัวแทนมารับหนังสือเอกสารหลักฐาน และหากได้รับมาจะเปิดเผยต่อสื่อมวลชนทันทีเพื่อให้เกิดความชัดเจนแก่สังคม
@ ชูวิทย์เผย 5 ล็อก เปลี่ยนเกณฑ์ “ดี และถูก เป็นดุลพินิจ”
นายชูวิทย์กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมีการล็อกสเปก โดยล็อกแรก จากที่ได้ล้มประมูลครั้งแรกที่กำหนด TOR ให้กลุ่ม JV ที่จะประมูล ส่วนผู้เดินรถเฉพาะในไทย ซึ่งมีแค่ 2 ราย ส่วนอีกรายคือ แอร์พอร์ตเรลลิงก์ ไม่มีศักยภาพ ส่วนผู้รับเหมาเปิดกว้างให้ทั่วโลกเข้ามาได้ ล็อกที่ 2 เป็นการประมูลใหม่ กำหนด TOR ใหม่ ผู้เดินรถเปิดกว้างทั่วโลก แต่ผู้รับเหมาให้เฉพาะที่ต้องมีผลงานก่อสร้างรางและอุโมงค์กับรัฐไทย ที่สำคัญต้องก่อสร้างเสร็จแล้วด้วย เป็นการให้เฉพาะเจาะจงเพื่อให้เอกชนบางรายเข้าหลักเกณฑ์เพียงบริษัทเดียว
ล็อกที่ 3 เปลี่ยนเกณฑ์ประมูล จากราคาถูกและดี แต่ไม่เอา เปลี่ยนเป็นใช้ดุลพินิจของกรรมการ ซึ่งสามารถวิ่งเต้นได้ นี่คือหัวใจสำคัญ ล็อกที่ 4 ผลการตัดสิน 27-23 บอกว่าเปิดประมูลครั้งที่ 2 ทำได้ ล็อกที่ 5 เมื่อล็อกให้ผู้รับเหมาต้องมีผลงานกับรัฐบาลไทยที่แล้วเสร็จแล้วกับรัฐไทย เท่ากับเหลือผู้รับเหมา 2 ราย
นายชูวิทย์ยืนยันว่า ที่ออกมาไม่ได้รับเงินจากหน่วยงานหรือเอกชนรายใด พอไปสภามอบเอกสารให้ นายรังสิมันต์ โรมก็บอกว่าเป็นฝ่ายค้าน พอไปทำเนียบณ ก็บอกเป็นรัฐบาล เอาเอกสารให้นายกฯ อยากถามว่าเคยคิดเพื่อประเทศชาติ เคยรักชาติบ้างหรือไม่ ปกป้องเพื่อประเทศหรือไม่ พร้อมกับบอกว่า ตอนพรรคภูมิใจไทยหาเสียงในกรุงเทพฯ จะถล่ม อย่าคิดว่าจะได้คะแนนเสียง
ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อมูลที่ยื่นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ มีหลักฐานการโอนเงินและบัญชีธนาคารที่สิงคโปร์ที่เคยระบุไว้หรือไม่ นายชูวิทย์กล่าวว่า โครงการนี้อยู่ในขั้นตอนประมูล ต้องมีการคุยกัน ถ้าช่วยจะให้เท่าไรอย่างไร ซึ่งอาจจะเป็นการดูแลเลือกตั้ง คงไม่มีใครให้ทั้งหมดหรอก เงินทอน 3 หมื่นล้านบาท บรรทุก 10 ล้อ 3 คัน จะให้กันอย่างไร ผมไม่ได้บอกรัฐมนตรีรับหรือใครรับ แบบนี้กินปูนร้อนท้อง แต่ต้องเข้าใจว่า นักการเมืองวันนี้ใช้เงินหมด ใครเงินมากก็ชนะ
ด้านนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้โครงการยังไม่ได้นำเสนอมาที่กระทรวงคมนาคมเพราะยังอยู่ในขั้นตอนคัดเลือก และมีขั้นตอนการฟ้องร้องทางกระบวนการยุติธรรม รฟม.แจ้งว่ารอกระบวนการยุติธรรมสิ้นสุด ก่อนเสนอคมนาคม ทั้งนี้ กรณีที่มีการกล่าวหานั้น หากมีข้อสงสัยใดๆ ให้นำหลักฐานมาแสดงต่อกระทรวงคมนาคม ก็พร้อมดำเนินการตรวจสอบ และขณะนี้ให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมหลักฐานเพื่อดูรายละเอียดว่าทำให้กระทรวงคมนาคมเสียหายหรือไม่
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าฯ รฟม.ชี้แจงว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม เป็นการต่อสู้ทางกฎหมาย เป็นกติกาทางสังคม เมื่อคำพิพากษาถึงที่สุดต้องพร้อมยอมรับ ซึ่งนายชูวิทย์เองเคยโพสต์ตอนที่ต้องคดีรื้อบาร์เบียร์ และถูกจำคุกเมื่อปี 2561 ว่ากระบวนการยุติธรรม เป็นกติกาทางสังคมที่ต้องยอมรับ ซึ่งรฟม.มั่นใจหลักฐานและชี้แจงกระบวนการถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าดำเนินการโครงการด้วยความโปร่งใส
ส่วนประเด็นการล็อกสเปกที่นายชูวิทย์กล่าวถึงนั้น เรื่องนี้มีการฟ้องร้องยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ซึ่งศาลมีคำพิพากษาแล้วว่าหลักเกณฑ์การประมูลใหม่ทำให้เปิดกว้าง ไม่กีดกันผู้ฟ้อง (บีทีเอสซี) และสามารถหาพันธมิตรได้
ส่วนที่ระบุว่ามีการล็อกสเปกให้เฉพาะบริษัทรับเหมาที่มีผลงานก่อสร้างรางและอุโมงค์กับรัฐบาลไทยเท่านั้น ซึ่งจะเหลือเพียง 2 ราย นายภคพงศ์กล่าวว่า ข้อกำหนดผู้รับเหมามีผลงานในไทย อุโมงค์และรางนั้น ไม่ได้มีเฉพาะผู้รับเหมาไทยเท่านั้นแต่มีบริษัทต่างชาติอีกหลายรายที่มีผลงานดังกล่าว ที่ทางผู้ฟ้อง (บีทีเอส) สามารถไปร่วมเป็นพันธมิตรได้ และกรณีนี้ รฟม.ได้นำเอกสารชี้แจงต่อศาลแล้วว่า ผู้รับเหมาทั้งไทยและต่างชาติที่มีผลงานดังกล่าว ประมาณ 10 ราย ไม่ใช่ 2 รายอย่างที่นายชูวิทย์กล่าวอ้าง
