หัวหน้า ภท. ย้ำ ไม่เสนอปรับ ครม. หลัง “กนกวรรณ” พ้นตำแหน่ง เหตุระยะเวลาเหลือน้อย มิบังควร เหน็บบางพรรค พา “ชูวิทย์” ขึ้นทำเนียบแฉพาดพิง ชี้ คนอื่น 1 นิ้ว อีก 4 เข้าตัว ยันความสัมพันธ์พรรคร่วมไม่มีปัญหา ขอแค่ระดับบนไม่ทะเลาะกัน
วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลฎีกาตัดสินให้ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พ้นจากตำแหน่ง และถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต จะเสนอให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทดแทนหรือไม่ ว่า ตอนนี้แม้โควตาตำแหน่งรัฐมนตรีจะว่าง แต่เวลาก็เหลือน้อย แม้จะมีช่วงรักษาการ แต่คงไม่เสนอปรับแล้ว เพราะมีขั้นตอน อีกทั้งยังต้องให้ความสำคัญที่สุด ในการไม่ไปทำอะไรระคายเบื้องพระยุคลบาท เพราะรัฐมนตรีต้องเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ และเวลาที่เหลืออยู่ท่านนายกฯ ก็ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะยุบสภาภายใน 3-4 เดือนนี้ กว่าจะตรวจคุณสมบัติ กว่าจะนำชื่อเสนอ กว่าจะพิจารณาต่างๆ เป็นสิ่งที่มิบังควร ตนในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องมีสำนึก
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นหนังสือต่อ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบการทุจริตหลายโครงการของพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ของกระทรวงคมนาคม ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการพรรค ภท. ว่า ไม่กังวลที่นายชูวิทย์ออกมาแฉ นายศักดิ์สยาม ได้ชี้แจงไปแล้ว การจะกล่าวหาใคร ทางที่ดีที่สุดจะต้องมีหลักฐานให้ชัดเจน การคาดคะเนหรือวิเคราะห์ไม่สามารถใช้ในกระบวนการยุติธรรมได้ ต้องมีหลักฐาน เพราะถ้ามีหลักฐานก็ฟาดไม่เลี้ยง
เมื่อถามว่า การออกมาแฉในช่วงนี้ จะมีผลกระทบในการหาเสียงของพรรคหรือไม่ เพราะใกล้ช่วงเลือกตั้งแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี ตนเชื่อว่า ประชาชนรับทราบกันดี โดยเฉพาะช่วงใกล้กันตั้ง การสาดโคลนใส่กันสามารถเกิดขึ้นได้ ที่ผ่านมา ก็เกิดขึ้นตลอด ซึ่งส่วนใหญ่เวลาสาดโคลน คนสาดก็ต้องระมัดระวัง อาจจะพูดเป็นตัวย่อหรืออ้อมๆ บ้าง ซึ่งเรื่องเหล่านี้หาสาระไม่ได้
เมื่อถามว่า มองเป็นเรื่องการเมืองที่ต้องการดิสเครดิตพรรค ภท.หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันแน่นอนอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อมีการแข่งกัน และความคิดคนก็ไม่เหมือนกัน คนที่อยากจะเข้ามาในการเมืองมากๆ บางทีก็เล่นนอกบท แต่ไม่เป็นไร เราไม่ได้ทำอะไรผิด ก็คือไม่ผิด ซึ่งกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยก็ยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนที่ไม่ผิดก็ไม่เห็นถูกลงโทษใดๆ ส่วนคนที่โดนก็คือผิดจริงๆ ฉะนั้น เราก็ต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีคนของพรรคร่วมรัฐบาลพานายชูวิทย์ เข้ามายื่นหนังสือถึงในทำเนียบรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องแบบนี้ตนไม่ขอก้าวก่าย ใครทำอะไรไว้ก็ต้องอธิบาย ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่นายชูวิทย์ออกมาพูดส่วนใหญ่เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า “เวลาชี้นิ้วไปที่คนอื่น 1 นิ้ว อีก 4 นิ้วก็จะชี้เข้าตัว” ส่วนใครจะมองว่า 2 มาตรฐานหรืออย่างไร ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้ติดตาม ยืนยันว่าความสัมพันธ์พรรคร่วมไม่มีอะไร ที่ผ่านมา ทุกยุคทุกสมัย บรรดาหมู่มวลสมาชิกก็มีการทะเลาะเบาะแว้งกันในลักษณะนี้ ขอแค่ระดับบนอย่ามีปัญหากัน คุยกันได้ เปิดช่องกันไว้ ซึ่งปัจจุบันระดับ หัวหน้าพรรค ทั้งตน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็ยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น มีความเคารพนับถือ เกรงอกเกรงใจกัน ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไรกัน แค่รุ่นใหญ่โอเคก็พอแล้ว
