xs
xsm
sm
md
lg

ด่วน! กบน.เคาะปรับลดดีเซลรอบ 2 อีก 50 สตางค์/ลิตร มีผล 22 ก.พ.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กบน.เคาะปรับลดราคาดีเซลให้ประชาชนเป็นรอบที่ 2 โดยลดลงอีก 50 สตางค์ต่อลิตร มีผล 22 ก.พ.นี้เป็นต้นไป ทำให้ดีเซลเหลือราว 34 บาทต่อลิตรหลังจากที่ลดลงวันนี้ไปแล้ว 50 สตางค์ต่อลิตร เหตุราคาดีเซลตลาดโลกอ่อนตัว

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีมติให้ปรับลดราคาขายปลีกดีเซลลงอีก 50 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลจะอยู่ที่ประมาณที่ 34 บาทต่อลิตร โดยมีผล 22 ก.พ. 66 ซึ่งถือเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 หลังจากวันนี้ (15 ก.พ.) ที่ดีเซลได้ลดลง 50 สตางค์ต่อลิตรมาอยู่ที่ 34.44 บาทต่อลิตรตามมติ กบง.เมื่อ 2 ก.พ. เนื่องจากราคาดีเซลตลาดโลกมีการอ่อนตัวลง เมื่อนำมาพิจารณาสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น กบน.จึงได้ให้ปรับลดแก่ประชาชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป

“การที่เราลดราคาขายปลีกที่ไม่ได้ทำทันทีโดยจะมีผล 22 ก.พ. เพราะต้องให้เวลากับผู้ค้าน้ำมันได้บริหารสต๊อกน้ำมันเพื่อไม่ให้ขาดทุน โดยปัจจัยที่ลดลงจากการติดตามราคาตลาดโลกของดีเซลช่วง 1-13 ก.พ.เฉลี่ยอยู่ที่ 106.29 เหรียญต่อบาร์เรลที่มีการอ่อนตัวลง” นายวิศักดิ์กล่าว


นอกจากนี้ กบน.ยังเห็นชอบให้จัดเก็บอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซล เกรดพรีเมียม (น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมพิเศษ) โดยให้มีส่วนต่างจากน้ำมันดีเซลเกรดธรรมดา (87, 210, 220) 1.50 บาทต่อลิตร จากเดิมจะมีส่วนต่างกัน 0.50 บาทต่อลิตรเนื่องจากได้พิจารณาแล้วว่าช่วงวิกฤติที่ผ่านมาดีเซลพรีเมี่ยมซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถหรูมีปริมาณการใช้เฉลี่ย
7-9 แสนลิตรต่อวันโดยพบว่าปริมาณการใช้ไม่ได้ลดลงจึงเห็นว่ากลุ่มนี้มีศักยภาพในการจ่าย ส่วนผู้ค้าจะขึ้นราคาดีเซลพรีเมียมเท่าใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับการแข่งขันของตลาดเป็นสำคัญ

ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สถานะการติดลบเริ่มลดลงเป็นลำดับ โดยสัปดาห์ล่าสุด วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 ติดลบ 108,610 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อสองสัปดาห์ก่อนหน้า วันที่ 29 มกราคม 2556 ติดลบอยู่ที่ 113,436 ล้านบาท และวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ติดลบ 111,409
ล้านบาท

ขึ้นLPG1มี.ค.ยังไม่เปลี่ยน

ส่วนสถานการณ์ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ตลาดโลกปัจจุบันยังอยู่ในช่วงขาขึ้นเนื่องจากยังไม่พ้นช่วงฤดูหนาวในต่างประเทศทำให้ความต้องการใช้LPG ยังอยู่ในระดับสูงส่งผลให้ราคาLPG ตลาดโลก ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 700ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน โดยปัจจุบัน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ใช้เงินเข้าไปอุดหนุนราคาขายปลีกLPG ถัง 15 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นเป็น 9
บาทต่อกิโลกรัม จากราคาขายปลีก อยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม โดยคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ก่อนหน้าได้กำหนดให้มีการปรับขึ้นราคาLPG เพิ่มอีก 15 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ในเดือน มี.ค.นี้ ส่งผลให้ราคาขายปลีกเป็น 423บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากทิศทางราคาLPG คาร์โก้ เฉลี่ย 2 สัปดาห์ข้างหน้าพบว่า ราคายังอยู่ในระดับกว่า 700 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ทำให้ยังต้องอุดหนุนราคาอยู่ที่กว่า8 บาทต่อกิโลกรัม

นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์สกนช.กล่าวว่า ความคืบหน้าแผนกู้เงินของกองทุนน้ำมันฯนั้นล่าสุด ยังอยู่ระหว่างรอทางกระทรวงการคลัง และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)นำเสนอแผนบริหารจัดการหนี้สาธารณะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ซึ่งเบื้องต้น กองทุนน้ำมันฯจะได้เงินประมาณ 80,000ล้านบาท และหากได้รับอนุมัติวงเงินแล้วสกนช.ก็จะเร่งเบิกจ่ายเงินเพื่อชำระคืนหนี้ให้กับผู้ค้าม.7จากก่อนหน้านี้ได้รับเงินมาแล้ว 30,000 ล้านบาทหากรวมกับวงเงินที่จะได้เพิ่มอีก 80,000 ล้านบาท ก็จะครอบคลุมภาระหนี้ที่มีอยู่110,000 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ มีหนี้อยู่ที่ระดับ130,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น