ก.พลังงานเกาะติดราคา LPG-ดีเซล ตลาดโลกยังคงผันผวน ล่าสุด LPG พุ่งกระฉูดส่งผลให้กองทุนฯ ต้องควักอุดหนุนเพิ่มจาก 6.13 บาท/กก.เป็น 9.05 บาท/กก. ขณะที่ดีเซลอ่อนตัวลงทำให้เก็บเงินเข้ากองทุนฯ แตะ 6.41 บาท/ลิตร เกาะติดราคาโลกลงต่อมีลุ้นดีเซลลดได้อีกจากเดิม 50 สต./ลิตร มีผล 15 ก.พ.
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อ 7 ก.พ. 66 ได้จ่ายชดเชยก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพิ่มขึ้นจากเดิม 6.13 บาท/กิโลกรัม (กก.) มาอยู่ที่ 9.05 บาท/กก. เนื่องจากราคา LPG ตลาดโลกได้ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 642.40 เหรียญสหรัฐ/ตันมาอยู่ที่ 738.19 เหรียญ/ตัน เนื่องจากมีความต้องการใช้ในช่วงฤดูหนาวของกลุ่มประเทศทางตะวันตกเพื่อทำความอบอุ่น ประกอบกับภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนทำให้ปริมาณ LPG ในตลาดมีจำกัดจึงส่งผลต่อระดับราคาที่เพิ่มขึ้น
“การชดเชยดังกล่าวทำให้เป็นภาระกองทุนน้ำมันบัญชี LPG ที่เพิ่มขึ้น แต่ด้วยมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อ 15 ม.ค. 66 ที่กำหนดให้ตรึง LPG ครัวเรือน 408 บาท/ถัง 15 กก. มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1-28 ก.พ. 66 จากนั้นให้ปรับราคาขายปลีก LPG เพิ่มอีก 15 บาท/ถัง 15 กก.เป็น 423 บาท/ถัง 15 กก. มีผลตั้งแต่ 1-31 มี.ค. 66 ก็จะทำให้บรรเทาภาระลงไปได้อีกระดับหนึ่งแต่ก็ยังคงต้องดูทิศทาง LPG ตลาดโลกต่อเนื่อง” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม ส่วนกองทุนฯ บัญชีน้ำมันมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 471 ล้านบาท/วัน หรือประมาณ 1.31 หมื่นล้านบาท/เดือนจากการจัดเก็บเข้ากองทุนฯ โดยเฉพาะในส่วนของดีเซลที่ล่าสุด ณ วันที่ 8 ก.พ. เก็บที่ 6.41 บาท/ลิตร หลังจากราคาดีเซลตลาดโลกอ่อนตัวลงต่อเนื่อง แต่จากการที่กองทุนฯ ต้องดูแลระดับราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร และก่อนที่จะขยับเพดานไม่เกิน 35 บาท/ลิตรก่อนหน้า ทำให้ปัจจุบัน ณ วันที่ 5 ก.พ. กองทุนฯ ติดลบสุทธิ 111,409 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 65,896 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,513 ล้านบาท
แหล่งข่าวกล่าวว่า ราคาดีเซลตลาดโลกที่อ่อนตัวลงช่วงที่ผ่านมาจากความต้องการของจีนปรับตัวลดลงในเดือน ม.ค. ประกอบกับระดับสินค้าคงคลังในสิงคโปร์ยังอยู่ในปริมาณสูง ดังนั้น คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาปรับลดราคาขายปลีกดีเซลลงในรอบ 7 เดือนลิตรละ 0.50 บาท โดยจะมีผลในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ทำให้ดีเซลขายปลีกจะมาอยู่ที่ 34.45 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้ส่งสัญญาณให้ลดราคาลงได้อีกเพื่อให้สะท้อนการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาท/ลิตรไปยังประชาชนบางส่วน ซึ่งหากแนวโน้มการจัดเก็บดีเซลอยู่ระดับ 6-7 บาท/ลิตรก็มีโอกาสลดลงได้ต่อ
“คงต้องติดตามดีเซลตลาดโลกที่ก็ยังคงไม่แน่นอนหลังจีนมีแนวโน้มจะใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น และความตึงเครียดสหรัฐฯ และจีนกรณีการยิงบอลลูนที่ต้องติดตามว่าจะมีผลอย่างไร และต้องคำนึงว่าภาษีฯ ดีเซลที่ลด 5 บาท/ลิตรจะสิ้นสุด 20 พ.ค. 66 หากว่าต่ออายุก็ง่ายที่จะตัดสินใจลดราคา แต่หากไม่ต่อก็ทำให้ต้องบริหารความเสี่ยงเพราะไม่เช่นนั้นจะไม่มีรายได้ชำระหนี้” แหล่งข่าวกล่าว