ผู้จัดการรายวัน 360 - แอลจีเปิดตัว "LG Objet Collection" บุกตลาดพรีเมียมเต็มกำลังผ่านสินค้า 4 กลุ่ม และเพิ่มรุ่นประหยัดไฟสูงสุด 27% ใต้วิสัยทัศน์เน้นสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิดของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น ปักธงรายได้เอชเอ ปี 66 โต 14% แตะ 84,000 ล้านบาท
นายซองฮัน จาง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แอลจี ประเทศไทย พร้อมสานต่อวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล จากการดำเนินงานของแอลจีในระดับโลก ประกาศวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนประจำปี 2566 โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิดของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญต่ออนาคตที่ยั่งยืน ผ่านการนำเสนอไลน์อัพเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ล่าสุดที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค
ในขณะที่แผนการดำเนินงานในปีนี้ยังเตรียมนำเสนอนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความสำคัญของความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของแอลจีระดับโลกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตสินค้าลง 50% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2560 เพื่อทำให้วิสัยทัศน์ Better Life for AIl กลายเป็นจริง
ล่าสุดปีนี้แอลจีพร้อมเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านทั้งหมด 34 รุ่น ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน 4 รุ่น เครื่องฟอกอากาศ 1 รุ่น เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าในเครื่องเดียวกัน 1 รุ่น เครื่องซักผ้าฝาหน้า 11 รุ่น เครื่องซักผ้าฝาบน 4 รุ่น ตู้ถนอมผ้า 1 รุ่น ตู้เย็น 5 รุ่น เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สาย 4 รุ่น และเครื่องดูดฝุ่นแบบถังเก็บฝุ่น 3 รุ่น
ที่สำคัญ ในปีนี้พร้อมเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ LG Objet Collection เป็นผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่โดดเด่นด้วยส่วนผสมสีเขียวแบบพรีเมียมอันเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชันนี้ที่ช่วยเพิ่มความเรียบหรูและทันสมัยให้กับการตกแต่งบ้าน
ด้านนายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า ปีนี้แอลจีพร้อมให้ความสำคัญต่อผลิตภัณฑ์พรีเมียม ภายใต้ชื่อ LG Objet Collection เป็นการผสมผสานระหว่างดีไซน์กับผลิตภัณฑ์ให้เป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้าน ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานที่ส่งเสริมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิดแบบยั่งยืน ด้วยการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน LG ThinQ เพื่อสั่งงาน ควบคุม และตรวจสอบการทำงานผ่านสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลา
ในปีนี้ LG Objet Collection เปิดตัวด้วย 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ 1. LG ART COOL เครื่องปรับอากาศภายในบ้านด้วยระบบดูอัล อินเวอร์เตอร์ ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นและทำความเย็นได้เร็วขึ้น ด้วยตัวเครื่องสีเขียว, 2. LG Wash Tower เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าในเครื่องเดียวแบบทาวเวอร์ โดดเด่นที่แผงควบคุมตรงกลางเดียวกันพร้อม Smart Pairing ที่เชื่อมต่อโปรแกรมการอบผ้าต่อจากการทำงานของเครื่องซักผ้าโดยอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชันอัจฉริยะ AI DD, 3. LG InstaView Door-in-Door ตู้เย็นดีไซน์พรีเมียมด้วยเทคโนโลยี InstaView ที่ทำให้มองเห็นด้านในตู้เย็นโดยไม่ต้องเปิดประตู เพียงเคาะ 2 ครั้ง ระบบกรองอากาศ 5 ขั้นตอน และเทคโนโลยี Linear Cooling ที่ช่วยเก็บอาหารให้สดนานยิ่งขึ้น และ 4. LG CordZoroTM A9 All-in-One Tower เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เทคโนโลยี Kompressor ช่วยบีบอัดฝุ่นและสิ่งสกปรกได้มากถึง 2.4 เท่า นอกจากนี้ยังมี 5. LG styler ตู้ถนอมผ้าเทคโนโลยี TrueSteam เพื่อเสื้อผ้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษแบบ 4 in 1 ทั้งฆ่าเชื้อ ขจัดกลิ่นอับ ช่วยให้ผ้าเรียบ และผ้าแห้งนุ่มฟู
ปีนี้ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ 3 ดาว ประหยัดไฟสูงสุด 27% รวม 10 กว่ารุ่นใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ แอร์เริ่มในปีนี้ และเครื่องซักผ้า กับตู้เย็นที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 65
“เป้าหมายของแอลจีในปี 2566 นี้คือ ต้องการมีส่วนแบ่งตลาดรวมของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดใหญ่ และเครื่องปรับอากาศเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทยภายใน 3 ปี ภายใต้การขับเคลื่อนรายได้โดยกลุ่ม LG Objet Collection หรือ กลุ่มเครื่องซักผ้าและเครื่องถนอมผ้า ครองอันดับ 1 เป็นปีที่ 24 ติดต่อกันในทุกประเภทของเครื่องซักผ้า ส่วนตู้เย็นขึ้นเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มตู้เย็นแบบ Side by Side และเป็นท็อป 3 ของตลาดตู้เย็นโดยรวม และเครื่องปรับอากาศยึดท็อป 5 ของตลาดเครื่องปรับอากาศ มีส่วนแบ่ง 30% ในกลุ่มสินค้าประหยัดไฟ 3 ดาว”
อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดแอร์ในปี 2566 นี้คาดว่าจะเติบโตขึ้น 7% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 20,991 ล้านบาท โดยเป็นรุ่นอินเวอร์เตอร์ถึง 80% ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้เติบโต คือปรากฏการณ์เอลนีโญที่กำลังจะกลับมาอีกครั้ง, มีการซื้อแอร์ใหม่ทดแทนแอร์เก่าในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น, ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น 16% จากปี 65 ผู้บริโภคจึงมองหาแอร์ที่ประหยัดไฟมากขึ้น, PM 2.5 และมลภาวะทางอากาศ และเรื่องของการพักผ่อนที่มีประสิทธิภาพ
โดยแอลจีตั้งเป้าหมายยอดขายกลุ่มสินค้าเอชเอ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านปี 2566 ไว้ที่ 8,400 ล้านบาท โต 14% แบ่งเป็นเครื่องซักผ้า 56% แอร์ 14% และตู้เย็น 20% จากปีก่อนทำได้ 7,300 ล้านบาท และสำหรับกลุ่ม LG Objet Collection ปีนี้มองว่าจะทำรายได้ที่ 5% ของรายได้รวม ปีหน้าเพิ่มเป็น 10% หรือเป้าหมายที่ 30% ภายใน 3 ปีนับจากนี้ ภายใต้งบการตลาดที่ใช้ในปีนี้ 500 ล้านบาท