xs
xsm
sm
md
lg

ข้าวถุง 6 หมื่นล. ปาดเหงื่อสู้ ต้นทุนพุ่ง 6 บาท/กก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด - ตลาดข้าวถุง 60,000 ล้านบาท ปีนี้คาดโต 3-4% แม้ต้นทุนข้าวถุงพุ่ง 6บาท/กก แต่ผู้ประกอบการยังพร้อมใจไม่ขึ้นราคา หวังดันการบริโภคในภาพรวมดีขึ้น หลังพบพฤติกรรมการบริโภคข้าวของคนไทยลดลงเหลือ 90 กก./คน/ปี ล่าสุดบิ๊กซี รวมพล 20 แบรนด์ข้าวถุง จัดแคมแปญ “ข้าวถุงร่วมใจ ประหยัดทั่วไทย ที่บิ๊กซี ครั้งที่ 15” ลดราคาสูงสุด 30% มั่นใจยอดขายตลอดแคมเปญโต 20%


นายยงยุทธ พฤกษ์มหาดำรง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซี.พี.ฟู๊ดสโตร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย ข้าวตราฉัตร และในฐานะนายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยบริโภคข้าวคิดเป็นมูลค่า 2 แสนล้านบาท และเฉพาะประเภทกลุ่มข้าวบรรจุถุงมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 60,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาเติบโตปีละ 3-4% ในปีนี้ก็คาดการณ์ว่าจะเติบโตในอัตราเดียวกัน ถึงแม้ว่าต้นทุนจะเพิ่มสูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ข้าวสารหอมมะลิ ต้นทุนเพิ่มขึ้น 6 บาท จากเดิมอยู่ที่ 19 บาท/ กก. ขึ้นมาเป็น 25 บาท/ กก. ในปีนี้ “ในนามสมาคมและสมาชิก รวมถึงผู้ประกอบข้าวถุง เห็นชอบและพร้อมร่วมมือกันที่จะยังคงราคาขายไว้เท่าเดิม ไม่มีแผนที่จะปรับราคาข้าวถุงขึ้น แม้ว่าต้นทุนจะพุ่งสูงก็ตาม ส่วนหนึ่งเพราะในตลาดเองก็ยังคงมีการแข่งขันจัดโปรโมชั่น รวมถึงมีผู้เล่นหน้าใหม่ เช่น กลุ่มข้าวกระสอบก็หันมาทำแบรนด์บรรจุถุงกันมากขึ้น เพราะทิศทางการบริโภคข้าวของคนไทยแม้จะดูลดลง แต่จะเน้นเรื่องคุณภาพ และประโยชน์มากยิ่งขึ้น”

ดังนั้นการเติบโต 3-4% นั้น หลักๆจะมาจาก 1.ความสะดวกในการซื้อมากกว่าเมื่อก่อน และ2.มีผู้เล่นทำแบรนด์ใหม่เข้ามาเพิ่ม รวมถึงทิศทางข้าวเพื่อสุขภาพก็มีอัตราการเติบโตที่ดีไม่ต่ำกว่า 10% จากมูลค่า 2,000-3,000 ล้านบาท มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก


ด้านนางสาวพรภัทรา บำรุงรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย ข้าวหงษ์ทอง กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันอัตราการบริโภคข้าวของคนไทย จากเดิมอยู่ที่ 100 กก./คน/ปี ลดลงเหลือ 90 กก./คน/ปี จากทางเลือกที่มีมากขึ้น และเข้าใจผิดว่ากินข้าวจะทำให้อ้วน ซึ่งมีแนวโน้มที่คนไทยจะลดอัตราจำนวนการบริโภคข้าวลงเรื่อยๆ

ขณะที่นางสาวกรองทิพย์ ธนถาวรลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ข้าวแสนดี จำกัด กล่าวเสริมว่า พฤติกรรมการบริโภคข้าวที่เปลี่ยนไปของคนไทย เห็นได้ชัดว่าเมื่อหลังสถานการณ์โควิด ผู้บริโภคให้ความสำคัญและเป็นห่วงเรื่องของสุขภาพและอนามัยกันมากขึ้น จึงต้องการแต่สิ่งดีมี่คุภาพเข้าสู่ร่างกายโดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน พฤติกรรมการบริโภคข้าวจึงเปลี่ยนไปเช่นกัน หันมาบริโภคข้าวเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มข้าวไม่ขัดสี โดยจะเห็นว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่จะมีข้อมูลนำมาใช้เพื่อการบริโภคข้าวมากขึ้น ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุต้องการข้าวที่มีคุณภาพมากขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตามปีนี้ทาง บิ๊กซี จัดแคมเปญ “ข้าวถุงร่วมใจ ประหยัดทั่วไทย ที่บิ๊กซี ครั้งที่ 15” จับมือ กระทรวงพาณิชย์ และ 20 แบรนด์ข้าวถุง ร่วมลดค่าครองชีพต่อเนื่อง พร้อมวางเป้าส่งมอบข้าวไทยพันธุ์ดีเพื่อคนไทย หนุนเกษตรกรไทยมีรายได้อย่างมั่นคง ส่งมอบโปรโมชั่นข้าวไทย เพื่อคนไทย ลดราคาข้าวสูงสุดถึง 30% ตอกย้ำการดำเนินงาน “ห้างคนไทย หัวใจคือลูกค้า” เพื่อตอบแทนลูกค้าบิ๊กซี ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภค พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขายข้าวถุงเพิ่มขึ้น 40%


นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี กล่าวว่า ข้าวถือเป็นอาหารหลักที่สำคัญของผู้บริโภคชาวไทย บิ๊กซีเราให้ความสำคัญกับการสนับสนุนและส่งเสริมในอุตสาหกรรมดังกล่าวตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ โดยที่ผ่านมาเราได้จัดกิจกรรม "ข้าวถุงร่วมใจ ประหยัดทั่วไทย ที่บิ๊กซี" ต่อเนื่องในทุกปีและปีนี้เป็นครั้งที่ 15 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “บิ๊กซีร่วมสนับสนุน เกษตรกรไทยทุกภูมิภาค” มีจุดหมายที่สำคัญเพื่อรวบรวมข้าวสารถุงคุณภาพเยี่ยมจากผู้ผลิตชั้นนำมาจัดจำหน่ายในราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ประกอบการมีช่องทางในการจัดจำหน่ายมากขึ้น

ขณะเดียวกันยังส่งเสริมให้เกษตรกรไทยที่ปลูกข้าวอยู่ทั่วประเทศได้มีรายได้เพิ่มขึ้น ที่สำคัญผู้บริโภคได้รับประทานข้าวพันธุ์ดีในราคาที่เข้าถึง ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างความเสถียรภาพในเรื่องของสินค้าเกษตรในประเทศไทย


นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริม สนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจข้าวสารถุง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเกษตรกรชาวนาไทยที่เป็นดั่งต้นน้ำของการผลิตข้าวให้สามารถกระจายผลผลิตข้าวได้ และสร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยกรมการค้าภายในได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการกระตุ้นการบริโภค สร้างการรับรู้ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับคุณประโยชน์ข้าวไทยที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแคมเปญนี้ถือเป็นส่วนสำคัญของการบรรลุเป้าหมายการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะการผลักดันให้คนรุ่นใหม่ใส่ใจในผลิตภัณฑ์ข้าวไทยมากขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนในการกระจายและกระตุ้นให้มีการบริโภคข้าวมากขึ้น และเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเกษตรกรชาวนาไทยผู้ปลูกข้าวซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจพื้นฐานหลักของประเทศเรา”

นายวีระชาติ คำกลัด ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายจัดซื้อสินค้าบริโภค บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ 8 ก.พ.-15 มี.ค. โดยได้รวบรวมข้าวพันธุ์ดีจากเกษตรกรไทย โดยคัดสรร 20 แบรนด์ข้าวถุงชั้นนำของประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วย ข้าวถุงเบญจรงค์, ข้าวถุงตราฉัตร, ข้าวถุงหงษ์ทอง, ข้าวถุงแสนดี, ข้าวถุงพนมรุ้ง, ข้าวถุงมาบุญครอง, ข้าวถุงปิ่นเงิน, ข้าวถุงบัวชมพู/บัวน้ำเงิน, ข้าวถุงพิมาย, ข้าวถุงไก่แจ้, ข้าวถุงธรรม, ข้าวถุงกรีนนิช, ข้าวถุงสยาม ปราณา, ข้าวถุงเอไรซ์, ข้าวถุงรักจัง, ข้าวถุงบิ๊กซี, ข้าวถุงบิ๊กซี แฮปปี้ ไพรซ์, ข้าวถุงบิ๊กซี แฮปปี้ ไพรซ์ โปร, ข้าวถุงไทยวงศ์ทอง และข้าวถุงคัทลียา มาจัดจำหน่ายพร้อมจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ ลดสูงสุด 30% เมื่อซื้อข้าวถุงที่ร่วมรายการ พร้อมกันนี้ยังรับฟรีคูปองส่วนลดมูลค่า 50 บาท เมื่อซื้อข้าวสารถุงที่ร่วมรายการครบ 500 บาทขึ้นไป “เชื่อมั่นว่าจะกระตุ้นการขายข้าวถุง ซึ่งได้รับความนิยมอยู่แล้วให้กระจายไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ


ขณะเดียวกันยังช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภคหลังสถานการณ์โควิด -19 คลี่คลาย พร้อมกันนี้ยังเสริมรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่สำคัญยังทำให้ระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรมนี้เติบโตไปด้วยกัน ทั้งนี้มั่นใจว่าตลอดแคมเปญดังกล่าว จะมียอดขายกลุ่มข้าวถุงโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ ที่สำคัญจะช่วยผลักดันยอดขายข้าวถุงรวมปีนี้จะทำได้ไม่ต่ำกว่า 13 ล้านถุง หรือกว่า 68,000 ตันได้” นายวีระชาติ กล่าว




























กำลังโหลดความคิดเห็น