xs
xsm
sm
md
lg

MPI ปี 65 โตแค่ 0.62% พิษ ศก.โลกฉุดส่งออก ลุ้นท่องเที่ยวดันปี 66 ขยายตัวต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ธ.ค. หดตัว 8.19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ทั้งปี 2565 ยังขยายตัวได้ 0.62% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้จากพิษ ศก.โลกชะลอตัวเร็วกระทบส่งออก และคาดว่า ม.ค.จะหดตัวต่อ แต่ยังคงประมาณการ MPI ทั้งปี 66 ที่ 2.5-3.5% จากท่องเที่ยวฟื้นตัว โดยจะขอดูตัวเลขให้ชัดอีกครั้ง

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ธ.ค. 65 อยู่ที่ 93.89 หดตัว 8.19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยเป็นการหดตัวอย่างต่อเนื่อง และหดตัวมากที่สุดในรอบ 28 เดือน (เดือน ส.ค. 63 อยู่ที่ระดับ 91.21) แต่ตลอดปี 65 (ม.ค.-ธ.ค.) MPI อยู่ที่ 98.32 ขยายตัวเฉลี่ย 0.62% ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิต (CapU) ในเดือน ธ.ค. อยู่ที่ 59.67% ลดลงจาก 61.09% ในเดือน พ.ย. 65 แต่ตลอดทั้งปี 65 อัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 62.61% ดังนั้น สศอ.ยังคงประมาณการ MPI ปี 2566 ไว้ที่ 2.5-3.5% แม้ว่าการส่งออกเริ่มชะลอตัวแต่ยังคงมีปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

"MPI เดือน ธ.ค. หดตัวจากผลกระทบเศรษฐกิจโลกที่ชะลอและส่งผลต่อส่งออกไทยที่ลดลงในช่วงปลายปี และ MPI ตลอดปี 65 ขยายตัว 0.62% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าคาดการณ์ที่ประมาณการไว้เมื่อเดือน พ.ย. 65 ที่ 1.9% เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัวเร็วกว่าคาด ส่งผลให้การผลิตในบางอุตสาหกรรมชะลอตัวตามการสั่งซื้อจากต่างประเทศที่ลดลง และคาดว่า ม.ค. 66 MPI จะหดตัวต่อเนื่อง ดังนั้นเดือน ก.พ.เองอาจจะปรับประมาณการใหม่โดยต้องรอตัวเลขเศรษฐกิจจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ภาพรวมปี 66 MPI จะดีกว่าปี 65 แน่นอน" นางวรวรรณกล่าว

สำหรับ MPI เดือน ม.ค. 66 คาดว่าจะหดตัว เนื่องจากราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูง อุปสงค์สินค้าในตลาดโลกจากการที่ตลาดส่งออกสำคัญและคู่ค้าหลัก ทั้งยุโรป สหรัฐฯ และจีน มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะชะลอตัว นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าส่งผลต่อการส่งออกไทย ขณะเดียวกัน ยังมีเรื่องฐานเปรียบเทียบในปีก่อนอยู่ในระดับสูง เนื่องจากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจในหลายประเทศเริ่มกลับมาหลังการระบาดของโควิดมีทิศทางคลี่คลาย


ทั้งนี้ มีประเด็นที่ควรเฝ้าระวังในปี 66 คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของไทย, เงินเฟ้อชะลอตัวลงแต่ยังอยู่ในระดับสูง และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ และเรื่องความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หลังได้รับแรงส่งของภาคการท่องเที่ยวจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้นตามลำดับ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช้อปดีมีคืน หนุนการบริโภคในประเทศจากความต้องการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

“สศอ.คาดการณ์อุตสาหกรรมในปี 66 ที่มีแนวโน้มขยายตัวตามกระแสโลก และตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่มที่เกี่ยวกับสุขภาพ เครื่องปรับอากาศเทคโนโลยีสูง เม็ดพลาสติกชีวภาพ เภสัชภัณฑ์ สิ่งทอเทคนิค และยางล้อรถประหยัดพลังงาน” นางวรวรรณกล่าว

นอกจากนี้ สศอ.ประเมินว่าจากนโยบายจีนเปิดประเทศจะส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้การบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศที่แท้จริงภาคอุตสาหกรรม (Real GDP of Manufacturing) เพิ่มขึ้น 0.30% ส่วนช่วงเลือกตั้งปี 66 ประมาณเดือน พ.ค. 66 จะทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความคึกคัก ทั้งจากการหาเสียง และการลงพื้นที่ โดยคาดว่าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องจะได้รับอานิสงส์เชิงบวก เช่น อุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์ โฆษณา สินค้าอุปโภค-บริโภค เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น