“จุรินทร์” แจ้งความคืบหน้าแก้ปัญหาปาล์มติดคิวจบแล้ว โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มและลานเทกลับมารับซื้อเป็นปกติ ล่าสุดเปิดครบ 131 โรง สั่งติดตามต่ออีกระยะเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา พร้อมย้ำจังหวัด พาณิชย์จังหวัดลงไปดูใกล้ชิด อย่าให้มีการกดราคา ถ้าเจอให้เล่นงานตามกฎหมายอย่างหนัก เผยราคาผลปาล์มเริ่มขยับแล้ว ขึ้นกิโลกรัมละ 0.10-0.60 บาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดูแลราคาปาล์มน้ำมัน ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ในช่วง 2 สัปดาห์นี้เกิดปัญหาที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มไม่สามารถนำผลปาล์มขายที่ลานเทหรือโรงสกัดได้โดยสะดวก เพราะมีโรงสกัดบางโรงไม่รับซื้อหรือรับซื้อไม่ทัน เพราะปกติในช่วงสิ้นปี โรงสกัดจะปิดซ่อมเครื่องจักร ซึ่งเกือบทุกปีผลปาล์มออกน้อยในช่วงนี้ แต่ปีนี้ผลปาล์มทะลักออกมาเยอะมาก ในขณะที่โรงสกัดจำนวนหนึ่งปิดซ่อมทำให้เกิดปัญหา แต่หลังจากกระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปแก้ปัญหา ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว โรงสกัดและลานเทเริ่มกลับมาซื้อผลปาล์มแล้ว
“คาดว่าในสัปดาห์นี้ทุกอย่างน่าจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ แต่ได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์อีกระยะ เพื่อให้ทุกอย่างไม่เกิดปัญหา และให้เกษตรกรขายผลปาล์มได้โดยปกติต่อไป โดยล่าสุดโรงสกัดทั้งหมดมี 131 โรง เปิดดำเนินการและรับซื้อครบแล้วทั้ง 131 โรง” นายจุรินทร์กล่าว
สำหรับการซื้อขายปาล์ม ได้สั่งการให้ทางจังหวัด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์โดยต่อเนื่อง ถ้าพบโรงสกัดและลานเทที่ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งให้ลงไปดูและห้ามใช้กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสาเหตุกดราคาปาล์มกับเกษตรกร ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีตามมาตรา 29 ข้อหาสร้างความปั่นป่วนด้านราคา มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก่อนหน้านี้ ได้สั่งการให้นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน พาณิชย์จังหวัด ลงไปแก้ไขปัญหาร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยมีข้อสรุปดังนี้ 1. โรงสกัดที่ปิดซ่อม ให้รีบซ่อมให้เสร็จ และเปิดรับซื้อโดยเร็ว 2. โรงสกัดไหนที่ยังไม่ปิด แล้วจะปิด ยังไม่อนุญาตให้ปิดซ่อม ต้องรับซื้อผลปาล์มในทันที และโรงสกัดที่จะต้องปิดซ่อมต่อไป ให้ทำแผนการปิดซ่อมแจ้งกระทรวงพาณิชย์และผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อพิจารณาอนุญาตเป็นรายกรณี
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หลังจากโรงงานสกัดเปิดรับซื้อตามปกติ ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันในแหล่งผลิตภาคใต้ปรับเพิ่มขึ้นกิโลกรัม (กก.) ละ 0.10-0.30 บาท และบางพื้นที่สูงถึง กก.ละ 0.40-0.60 บาท โดยกรมฯ ขอให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มยืดระยะเวลาการตัดออกไป และตัดปาล์มสุกเต็มที่เพื่อให้ได้ราคาดีและจะได้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และยังช่วยแก้ปัญหาการกระจุกตัวของการส่งปาล์มเข้าโรงงานสกัดได้ด้วย
ส่วนข้อกังวลของเกษตรกรเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มในช่วงนี้ กรมฯ ได้ส่งหน่วยเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วออกตรวจสอบและเฝ้าระวังในแหล่งผลิตสำคัญเป็นกรณีพิเศษอย่างเข้มงวด และได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มทุกรูปแบบ เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มและผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม มีความมั่นใจว่าจะไม่มีการลักลอบนำน้ำมันปาล์มเข้ามาสร้างปัญหากระทบต่อราคาปาล์มน้ำมันในประเทศ