xs
xsm
sm
md
lg

โครงการพระราชดำริ เขื่อนน้ำปี้เสร็จต้นปี 2568

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายวิวัธน์ชัย คงลำธาร ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 2 กรมชลประทาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเขื่อนน้ำปี้ อ.เชียงม่วน จ.พะเยา ว่า ขณะนี้กรมชลประทานได้จัดหาบริษัทก่อสร้างรายใหม่แทนรายเดิมแล้ว โดยสัญญาก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 16 มีนาคม 2568 ขณะนี้เริ่มเข้ามาดำเนินการแล้ว
“มั่นใจว่าจะเสร็จทันเวลา เพราะทีมงานมีประสบการณ์เคยก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตอัดบด เหมือนเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มาแล้ว”

นายวิวัธน์ชัยกล่าวว่า แม่น้ำปี้เป็นลำน้ำสาขาแม่น้ำยม พื้นที่ของแม่น้ำปี้ที่ อ.เชียงม่วน ประสบปัญหาทั้งขาดน้ำในฤดูแล้ง และประสบอุทกภัยในฤดูน้ำหลาก การก่อสร้างเขื่อนน้ำปี้มีผลดีหลายประการ นอกเหนือจากการสร้างแหล่งน้ำต้นทุนให้ 3 ตำบล 34 หมู่บ้าน พื้นที่ 28,000 ไร่ และฝายน้ำปี้เดิม 3,000 ไร่ ใน อ.เชียงม่วน แล้ว ในฤดูแล้งยังส่งน้ำช่วยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ยม อ.สอง จ.แพร่ ซึ่งอยู่ท้ายน้ำเขตติดต่อกันอีก 25,000 ไร่ รวมแล้วจะช่วยลดปริมาณน้ำยมที่ไหลลงสมทบแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงน้ำหลากด้วย

“ก่อสร้างเสร็จ เขื่อนน้ำปี้จะเป็นเพชรเม็ดใหญ่ของ จ.พะเยา เพราะมีความจุถึง 90.50 ล้านลูกบาศก์เมตร แทนกว๊านพะเยาที่มีน้ำเก็บกักเพียง 3 ล้านลูกบาศก์เมตร อีกทั้งจะเป็นแหล่งประมงในอ่างเก็บน้ำและขุดบ่อเลี้ยงปลาท้ายอ่าง แหล่งผลิตน้ำประปา และกระแสไฟฟ้า โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยลงทุนติดตั้งเครื่องจักร มีกำลังผลิต 7 ล้านหน่วยต่อปี หรือครึ่งหนึ่งของความต้องการใช้ไฟฟ้าของ อ.เชียงม่วน”

ที่สำคัญ ทางจังหวัดเตรียมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวครบทุกมิติ โดยศึกษาจากการท่องเที่ยวเขื่อนขุนด่านประการชล

โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปี้ เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่ปี 2520 กรมชลประทานได้ศึกษาความเหมาะสม และเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติเปิดโครงการเมื่อปี 2558 ระยะเวลาก่อสร้าง 6 ปี (พ.ศ. 2559-2564) แต่จากปัญหาบริษัทก่อสร้างเดิม ทำให้งานล่าช้าทำได้ราวๆ 20%​ เท่านั้น จนต้องยกเลิกสัญญาในที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น