ผู้จัดการรายวัน 360 - “ซีเอ็มโอ” เปิดแผนบุกตลาด Entertainment ต่างประเทศ เล็ง 9 ประเทศในเอเชีย และเซาท์อีสต์เอเชีย “ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย และไทย” ประเดิมงานแรกเดือนมกราคม 66 เปิดตลาดประเทศมาเลเซีย จัดคอนเสิร์ตเฟสติวัลศิลปินเกาหลี SEEN FESTIVAL in Kuala Lumpur 2023 คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน ชี้ปี 66 เตรียมจับมือยักษ์ใหญ่ด้านเอนเตอร์เทนเมนต์จากเกาหลี จัดงาน Music Festival ระดับโลกอีกหลายงาน คาดว่ารายได้กลุ่มเอนเตอร์เทนเมนต์อยู่ที่ประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท
นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทฯ เตรียมแผนลุยตลาดเอนเตอร์เทนเมนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศเต็มรูปแบบ โดยมีบริษัท ซีเอ็ม ไลฟ์ (CM Live) เป็นหัวหอกด้านงาน Entertainment โดยปัจจุบันจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงความชื่นชอบในการติดตามศิลปินต่างๆ ในประเทศกลุ่มเอเชีย และเซาท์อีสต์เอเชีย พบว่าธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์มีการเติบโตขึ้นทุกปี ทั้งศิลปินในกลุ่ม K-POP และกลุ่มศิลปินในยุโรป และอเมริกา ทำให้บริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการจัดคอนเสิร์ตทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการนำโชว์ต่างๆ เข้ามาด้วย เช่น Family Show โดยจะประเดิมงานแรกที่ประเทศมาเลเซีย SEEN FESTIVAL in Kuala Lumpur 2023 จัดขึ้นในวันที่ 28 มกราคม 2566 โดยมีศิลปินเกาหลี เช่น WayV, NCT Dream, KARD, Alice เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มศิลปินที่ได้รับความนิยมมีแฟนเพลงทั่วโลก คาดว่างานนี้จะมีผู้เข้าชมกว่า 1 หมื่นคน
ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม 2566 บริษัทฯ ยังเป็นพาร์ตเนอร์ในงาน “The Golden Disc Awards” จัดโดย Applewood Thailand เป็นงานประกาศรางวัลเกียรติยศสำหรับอุตสาหกรรมเพลงในประเทศเกาหลีใต้ โดยในปีนี้จะมาจัดขึ้นที่ประเทศไทย ในวันที่ 7 มกราคม 2566 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน นำโดย Seventeen, Stray Kids, ENHYPEN, LE SSERAFIM, NewJeans, และ TREASURE เป็นต้น
“กลุ่มงานเอนเตอร์เทนเมนต์ของบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามีความพร้อมในเรื่องของโปรดักชันที่เทียบเท่าระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเวที ระบบภาพแสงเสียง การทำ Graphic Motion และมัลติมีเดียต่างๆ พร้อมด้วยเอฟเฟกต์ตระการตา ความพร้อมดังกล่าวทำให้เราสามารถขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย” นายกิติศักดิ์กล่าว
นายกิติศักดิ์กล่าวต่อไปว่า นอกจากประเทศมาเลเซีย และประเทศไทยแล้ว ในปีนี้บริษัทยังเล็งเป้าขยายการทำธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ไปยังประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ อีกด้วย โดยการจัดงานจะทยอยประกาศงานในประเทศต่างๆ รวมถึงในประเทศไทยต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี โดยคาดว่าในปี 2566 กลุ่มธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์จะมีงานคอนเสิร์ต และงานโชว์อื่นๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ 15-20 งาน คิดเป็นรายได้ประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท