บขส.จัดรถโดยสารวันละ 2,900-3,000 เที่ยว รองรับประชาชนประมาณวันละ 32,000 คนที่จะเดินทางช่วงวันหยุดยาว 13-16 ต.ค.นี้ ย้ำคุมเข้มมาตรการด้านความปลอดภัย พร้อมเอาใจสมาชิก บขส. Card จองตั๋วออนไลน์เดินทางวันหยุดรับคะแนนสะสมคูณสองทันที
นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันที่ 14 ตุลาคม 2565 เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ ส่งผลให้ช่วงวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีวันหยุดต่อเนื่อง 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-16 ตุลาคม 2565 ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชนให้ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บขส.ได้เตรียมความพร้อมจัดการเดินรถ โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารเริ่มทยอยเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 12-13 ตุลาคม 2565
โดย บขส.ได้จัดรถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เที่ยวไปประมาณวันละ 2,900 เที่ยว คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการประมาณวันละ 32,000 คน ส่วนการเดินทางกลับ ในวันที่ 16-17 ตุลาคม 2565 ได้จัดรถโดยสารประมาณวันละ 3,000 เที่ยว คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการประมาณวันละ 33,000 คน โดยคาดการณ์ว่าปริมาณการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวนี้จะมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเทียบกับการเดินทางในช่วงเวลาปกติ
ปัจจุบัน บขส.เปิดให้บริการเดินรถในเส้นทางภาคเหนือ 19 เส้นทาง 54 เที่ยววิ่ง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก 23 เส้นทาง 68 เที่ยววิ่ง และเส้นทางภาคใต้ 16 เส้นทาง 43 เที่ยววิ่ง สอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม โทร. Call Center 1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง
“บขส.มีช่องทางจองตั๋วเดินทางล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Application E-Ticket, เว็บไซต์ www.transport.co.th ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วได้สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และสมาชิก บขส. Card เมื่อจองตั๋วช่องทางออนไลน์ เดินทางระหว่างวันที่ 13-24 ตุลาคม 2565 จะได้รับคะแนนสะสมคูณสองด้วย” นายสัญลักข์กล่าว
ทั้งนี้ บขส.ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถร่วม นำรถโดยสารมาสนับสนุนให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ และได้มีหนังสือขออนุญาตต่อนายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก นำรถโดยสารไม่ประจำทางมาจัดเสริมในเส้นทางต่างๆ ประมาณ 110 คัน ส่วนในเที่ยวกลับได้ขอความร่วมมือจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และผู้ประกอบการรถแท็กซี่ นำรถโดยสารมารับผู้โดยสารบริเวณชานชาลาขาเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร)
พร้อมได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการรถร่วมที่นำรถโดยสารมาวิ่งจะต้องดำเนินการตามมาตรการ/วิธีการปฏิบัติสำหรับการเดินรถโดยสาร เพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด และให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย ตรวจสภาพความพร้อมของรถโดยสาร พนักงานขับรถ ให้พร้อมก่อนออกเดินทางทุกครั้ง จำกัดความเร็วไม่เกิน 80-90 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเมื่อเจอฝนตกสภาพถนนเปียก เส้นทางที่น้ำท่วมขังควรใช้ความเร็วลดลง ใช้ความระมัดระวังในการขับรถให้มากขึ้น รวมทั้งนำมาตรการ 4 พร้อม (สถานีพร้อม, พนักงานพร้อม, รถโดยสารพร้อม และการบริการพร้อม) มาใช้ เพื่อสร้างความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสารทุกคน