เพจเฟซบุ๊กกลุ่มบัสแฟนวิจารณ์กรณีที่เอกชนจะเดินรถแทน ขสมก. 4 เส้นทางจันทร์นี้ (10 ต.ค.) ตามโครงการปฏิรูปรถเมล์ของกรมการขนส่งทางบก พบตั้งข้อสงสัยว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน จำนวนรถเพียงพอหรือไม่ หลังพบว่าบรรจุรถเพียงแค่ขั้นต่ำ แถมไม่ร่วมแชร์ระบบ GPS กับรายอื่น
วันนี้ (8 ต.ค.) จากกรณีที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เตรียมหยุดการเดินรถโดยสาร 4 เส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป ได้แก่ สาย 34 รังสิต-หัวลำโพง (ทางด่วน), สาย 82 ท่าน้ำพระประแดง-บางลำพู, สาย 88 วัดคลองสวน-ลาดหญ้า และสาย 140 แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ทางด่วน) เนื่องจากรถโดยสารเอกชนสามารถจัดเดินรถโดยสารในเส้นทางดังกล่าวได้ตามปกติแล้ว ส่งผลทำให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และบัตรโดยสาร ขสมก.ทุกประเภท ไม่สามารถใช้บัตรดังกล่าวกับรถโดยสารเอกชนได้อีกต่อไป แต่ผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรเดบิต หากเส้นทางดังกล่าวมีเครื่องรับชำระค่าโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ของเอกชน สามารถใช้งานได้ตามที่บริษัทกำหนด ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : ปิดตำนานรถเมล์สายทำเงิน ขสมก.หยุดวิ่ง 4 เส้นทาง 10 ต.ค.นี้ เอกชนเดินรถเต็มรูปแบบ
จากการสำรวจเฟซบุ๊กกลุ่มบัสแฟน หรือกลุ่มผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ได้วิจารณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เช่น เฟซบุ๊ก "Bangkokbusclub.com ชุมชนคนรักรถเมล์" ได้โพสต์ข้อความหัวข้อ "พร้อมจริงหรือ? ถ้าต้องวิ่งรายเดียว" ระบุว่า จากกรณีที่ ขสมก.ได้ประกาศเตรียมหยุดเดินรถเมล์ ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. จำนวน 4 เส้นทาง เนื่องจากสายเหล่านี้มีรถเมล์เอกชนของ บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด ซึ่งได้สัมปทานสายดังกล่าวในโครงการปฏิรูปรถเมล์จากกรมการขนส่งทางบกมาเปิดเดินรถแล้ว และตามกฎ 1 สาย 1 ผู้ประกอบการ ทำให้ ขสมก.ต้องถอดรถตัวเองออกไป ในสายที่เอกชนได้รับสัมปทานนั้น หลายคนเป็นห่วงว่ารถเมล์ใหม่ของไทยสมายล์บัสที่มาวิ่งแทนในสายเหล่านี้ มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน?
โดยเฉพาะเรื่องจำนวนรถ ที่ไทยสมายล์บัสยังบรรจุรถตามแค่ "จำนวนขั้นต่ำ" ที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดอยู่ ซึ่งน้อยกว่าจำนวนรถที่ ขสมก.ให้บริการ อีกทั้งยังพบว่าหลายๆ สายยังขาดพนักงาน จึงไม่สามารถนำรถที่มีอยู่ออกวิ่งเส้นทางได้ครบ บางสายออกวิ่งเพียงไม่ถึง 5 คันต่อวันเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องค่าโดยสารที่แพงขึ้นกว่ารถเดิม เพราะขนส่งได้กำหนดให้ใช้เรตตารางค่าโดยสาร 15, 20, 25 บาท สำหรับรถแอร์รุ่นใหม่ และพอเป็นรถเอกชน จึงไม่สามารถใช้บัตรรายเดือน รายสัปดาห์ของ ขสมก. ตลอดจนถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
และปัญหาที่พบได้ตอนนี้ คือแอปฯ ติดตามรถ ที่ไทยสมายล์บัสยังไม่ยอมเข้าร่วมกับแอปฯ ViaBus แต่ดันทำแอปฯ แยกของบริษัทเอง ที่ชื่อ TSB Go ขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันแอปฯ ดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เป็นมลภาวะทางไซเบอร์ ทำให้ผู้โดยสารหลายคนที่อยากรอขึ้นรถ แต่ไม่สามารถเช็กตำแหน่งรถได้ จนสุดท้ายก็ถอดใจไปขึ้นรถสายอื่นแทน แล้วก็มาบ่นอีกว่าทำไมเปิดสายแล้วคนขึ้นน้อย หรือสุดท้ายแล้วอาจจะเป็น "ระเบิดเวลา" ที่ผลตกแก่ผู้โดยสาร ก็รอดูต่อไปว่าพอถึงเดดไลน์วันที่ 10 ต.ค.นี้ ไทยสมายล์บัสจะสามารถเพิ่มรถเพิ่มพนักงาน และออกเดินรถตามความต้องการของผู้โดยสารได้หรือไม่?
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ด้านเฟซบุ๊ก รถเมล์ไทยแฟนคลับ Rotmaethai ระบุว่า "เปรียบเทียบจำนวนรถเมล์สาย 140 ระหว่าง ขสมก. กับเอกชน สืบเนื่องจาก ขสมก.ประกาศยุติการเดินรถสาย 140 ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้เอกชนเข้ามาเดินรถแทน ตามแผนปฏิรูปรถเมล์ มีการวิเคราะห์ถึงจำนวนรถที่ให้บริการ เพราะมีผลต่อความถี่ของรถ การวางแผนการเดินรถ และตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้อย่างการจราจรบนท้องถนน และจำนวนพนักงานที่ปฏิบัติงานในวันนั้น ซึ่งมีทั้งสมัครเข้ากับลาออก ในจำนวนที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา
จำนวนรถที่เรานำเสนอนี้กำลังจะบอกว่ามีผลต่อผู้โดยสารไปจนถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถ อย่างรถสาย 140 ขสมก. มีทั้งหมด 45 คัน ช่วงพีหสุดๆ เคยมีรถมากถึง 84 คัน แบ่งเป็นรถยูโรทู 16 คัน รถแอร์น้องอนงค์ลักษณ์ 29 คัน พอมาในส่วนของเอกชน ทราบมาว่าในเส้นทางปฏิรูป กำหนดรถขั้นสูงไว้ที่ 34 คัน ไม่เกินจากนี้ เรามาดูกันว่า วันที่ 10 ต.ค.นี้เอกชนจะมีรถวิ่งในเส้นทางกี่คัน เพราะถ้ารถมีน้อย ย่อมมีผลต่อการใช้เวลารอรถสาย 140 และรวมไปถึงวิธีบริหารจัดการเดินรถ ซึ่งผมเชื่อว่าตัดเสริมมีแน่ๆ ตราบใดที่แบตเตอรี่ของยังไม่หมด"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
