xs
xsm
sm
md
lg

เอสซีจี-เด็นโซ่-โตโยต้า จับมือยกระดับระบบขนส่งเย็น ส่งเสริม Food Safety สร้างความปลอดภัยอาหารมาตรฐานสากล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้นำด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรของไทย ร่วมกับบริษัท เด็นโซ่ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก และ บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเทรดดิ้งในเครือโตโยต้ากรุ๊ป ได้ร่วมลงนามความร่วมมือเพื่อยกระดับมาตรฐานระบบขนส่งเย็นของประเทศไทย โดยมีนายไพฑูรย์ จิรานันตรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด พร้อมด้วย นายฮิซาอากิ ซาโตะ ประธาน บริษัทเด็นโซ่ เซลส์ (ประเทศไทย) และ นายชิเกกิ มาเอดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า ทูโช ประเทศไทย ร่วมลงนามในครั้งนี้

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้ง 3 ฝ่ายมีวิสัยทัศน์ร่วมกันที่ต้องการจะสร้างสังคมที่ยั่งยืนและน่าอยู่ ผ่านการพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีด้านการขนส่งเย็น หรือ Cold Chain Ecosystem ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการนำจุดแข็งของพันธมิตรทั้ง 3 บริษัทเข้ามาผสานกัน โดย เด็นโซ่ จะเป็นผู้พัฒนาระบบเครื่องทำความเย็นสำหรับขนส่ง (Truck Refrigerator) และตู้เย็นเคลื่อนที่ MRF (Mobile Refrigerator) ซึ่งตู้เย็นนี้จะมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สามารถทำอุณหภูมิได้ถึง -20 องศาเซลเซียส โดยใช้กระแสไฟจากแบตเตอรี่ในการทำความเย็น พร้อมติดตั้งระบบติดตาม (Tracking) และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ (Traceability) โดยนำนวัตกรรมดังกล่าวมาใช้กับรถขนส่ง Cold chain ของเอสซีจี โลจิสติกส์ ที่จะกระจายสินค้าให้ลูกค้า โตโยต้า ทูโช จะช่วยสนับสนุนทางด้านระบบและเครือข่ายโลจิสติกส์ โดยระบบทำความเย็นแบบใหม่นี้สามารถควบคุมอุณหภูมิได้อย่างคงที่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้ายังคงสด สะอาด และรักษาคุณภาพของสินค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการทำความเย็นด้วยน้ำแข็งแห้ง โดยทั้งหมดนี้เพื่อหวังให้เป็นการยกระดับมาตรฐานระบบขนส่งเย็นของประเทศไทย


นายไพฑูรย์ จิรานันตรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือกับ เด็นโซ่ และ โตโยต้า ทูโช ในครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาระบบขนส่งเย็นในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับความตั้งใจของ เอสซีจี โลจิสติกส์ ในฐานะผู้ประกอบการขนส่ง เราให้ความสำคัญต่อกระบวนการรักษาความสด สะอาดในทุกขั้นตอน เพื่อส่งเสริมเรื่อง Food Safety สร้างความปลอดภัยด้านอาหารให้ได้มาตรฐานสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมอาหารและยา ที่ระบบการขนส่งเย็นได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก ระบบ Cold Chain Logistics ที่ดีและมีมาตรฐาน จะช่วยลดปัญหาด้านสินค้าเน่าเสีย สินค้าปนเปื้อน และคงคุณภาพของสินค้าให้ได้ตามมาตรฐาน โดยในอนาคตเราจะร่วมกันพัฒนาเพิ่มเติมในส่วนของการลิงก์ข้อมูลจากตู้เย็นเคลื่อนที่ MRF (Mobile Refrigerator) เข้ามาที่ห้อง Logistics Command Center ของเอสซีจี โลจิสติกส์ เพื่อช่วยในการ Double Monitoring และ Real Time Alert กรณีที่อุณหภูมิสูงกว่าที่กำหนด เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคว่าจะได้รับสินค้าที่สด สะอาด ปลอดภัย และช่วยให้ผู้ผลิตลดต้นทุนจากสินค้าที่เน่าเสีย พร้อมยังสามารถขยายตลาดไปยังลูกค้าในพื้นที่อื่นๆ ได้มากยิ่งขึ้น


นายฮิซาอากิ ซาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เด็นโซ่ เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาสภาวะโลกร้อน (Global Warming) และความสูญเสียคุณภาพของอาหารและพืชผลทางการเกษตร (Food spoilage) กำลังเป็นปัญหาที่ทุกประเทศเผชิญอยู่ในขณะนี้ ทางบริษัทเด็นโซ่ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ตั้งอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้เทคโนโลยีของเด็นโซ่ ซึ่งจะมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น โดยการออกผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อว่า ตู้เย็นเคลื่อนที่ (Mobile Refrigerator; MRF)

การลงนามความร่วมมือกันทั้ง 3 บริษัทในครั้งนี้ เด็นโซ่มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นการยกระดับโลจิสติกส์ไทยตามนโยบายของรัฐบาล “Thailand 4.0” นอกจากนี้ ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าอาหารและยาที่ถูกจัดส่งด้วยระบบตู้เย็นเคลื่อนที่ (MRF) จะคงคุณภาพเสมือนเพิ่งออกจากแหล่งผลิต


นายชิเกกิ มาเอดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า ทูโช ประเทศไทย กล่าวว่า เอซีจี และ เด็นโซ่ เป็นพันธมิตรของบริษัทมาเป็นระยะเวลายาวนาน ไม่เพียงแต่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้วิสัยทัศน์ของเราทั้งสามฝ่ายยังมีความสอดคล้องกันในเรื่องของ Carbon neutrality เราจึงมีความยินดีอย่างมากที่เป็นส่วนหนึ่งในการลงนามสัญญาความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อจะร่วมกันพัฒนาและยกระดับมาตรฐานระบบขนส่งเย็นของประเทศไทย โดยทางโตโยต้า ทูโช พร้อมที่จะสนับสนุนทางด้านระบบและเครือข่ายโลจิสติกส์ เพื่อมาเติมเต็มศักยภาพและขยายขอบข่ายความร่วมมือไปทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นเป้าหมายความร่วมมือสูงสุดของเราทั้งสามฝ่าย

โดยผู้ที่สนใจบริการด้านโลจิสติกส์ของเอสซีจี สามารถติดต่อได้ที่ www.scglogistics.co.th หรือหมายเลข 0-2586-6777 หรือ Facebook : scglogistics
กำลังโหลดความคิดเห็น