“เด็นโซ่” ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ มุ่งเป้า “การเป็นผู้นำการขับเคลื่อน สู่อนาคตที่ดียิ่งกว่าอย่างยั่งยืน”

กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทย เปิดตัว “นวัตกรรมการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งาน” พร้อมขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่า ภายใต้กรอบการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อประชาคมโลก เดินหน้าประกาศเป้าเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปีค.ศ.2035

นายนาโอโตะ อินนูซูกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชีย จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนได้ให้การสนับสนุนทำให้เด็นโซ่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ จนสามารถยืนหยัดเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์เคียงข้างสังคมไทยตลอดมา ด้วยการดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และความสะดวกสบายของผู้คน โดยมีจุดมุ่งหมายในการใช้เทคโนโลยีสร้างสรรค์สังคมล้ำสมัยที่ทำให้ผู้คน ยานยนต์ และสิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและสมดุล


“ในวาระครบรอบ 50 ปี เด็นโซ่ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ จาก “5 ทศวรรษแห่งการเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์คุณภาพระดับโลก” สู่ “ผู้นำการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่า เพื่อประชาคมโลกอย่างยั่งยืน” ภายใต้การพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs - Sustainable Development Goals เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้ง 3 ประการของเด็นโซ่ในภูมิภาคเอเชียได้แก่ ความเป็นกลางทางคาร์บอน การผลิตในยุคอนาคต และการแก้ปัญหาทางสังคมด้วยเทคโนโลยีของเด็นโซ่ โดยมีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปีค.ศ.2035”

ดร. ธีระวัฒน์ ลิมปิบันเทิง ประธานบริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวเปิดตัว “นวัตกรรมการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ภายใต้แนวคิด Lean and Clean” หรือ การลดความสูญเปล่าที่เกิดจากกระบวนการผลิตทั้งหมด รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยมีเป้าหมายการลดการใช้พลังงาน และส่งเสริมการผลิตด้วยพลังงานหมุนเวียน พร้อมทั้ง การจัดการบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปด้วย เพื่อสร้างรากฐานในการก้าวสู่ Thailand 4.0 และ Carbon Neutrality ไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ที่นอกจากจะทำให้เด็นโซ่ยืนหยัดเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แล้ว ยังจะช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญ


เด็นโซ่มุ่งสู่การเป็นผู้นำการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่าอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาธุรกิจตามกรอบของ SDGs ดังต่อไปนี้ “ด้านสิ่งแวดล้อม” มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ผ่านโซลูชันด้านอุตสาหกรรม อาทิ การนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในสายการผลิต การออกแบบเครื่องจักรภายใต้แนวคิด 1/N หรือการลดขนาดเครื่องจักรให้มีขนาดเล็กและพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรเพื่อลดการใช้พลังงานและลดการแผ่รังสีความร้อน รวมทั้ง เพิ่มขีดความสามารถของการดักจับและจัดเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากสายการผลิต ฯลฯ

“ด้านเศรษฐกิจและสังคม” เพิ่มการลงทุนและการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นให้กับคนไทย พร้อมทั้ง ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรผ่านโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาลไทย รวมถึงการพัฒนาทักษะความสามารถของเจ้าหน้าที่ออกแบบและติดตั้งระบบการผลิตอัตโนมัติทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรม (System Integrator หรือ SI) ตลอดจน การจัดการฝึกอบรมวิทยากรเพื่อรองรับแผนเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติต่อไป

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทย ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ.2515 ในนาม บริษัท นิปปอนเด็นโซ่ ประเทศไทย จำกัด โดยประเทศไทยนับเป็นสาขานอกประเทศญี่ปุ่นสาขาแรก กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทยถือเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์รายแรกของไทย ภายใต้นโยบายจากภาครัฐที่เน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศ เมื่อผสานกับนโยบายที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพเป็นหลัก ทำให้กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้ธุรกิจเจริญเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทยประกอบด้วยบริษัทในเครือทั้งสิ้นจำนวน 10 บริษัท สามารถสร้างยอดขายในปี 2021 มากกว่า 103,024 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 31% จากปี 2020