ทอท.เร่งปรับแบบเทอร์มินัลตะวันออก "สุวรรณภูมิ" ประเมินค่าก่อสร้างเพิ่ม 30% เหตุราคาวัสดุ-น้ำมันพุ่ง มีระบบ "เช็กอิน-รับกระเป๋า" ล่วงหน้าเพิ่ม คาดเสนอ สศช.และ ครม.ได้ต้นปี 66 เผยแม้งบเพิ่มแต่ไม่เกินกรอบเฟส 2 วงเงิน 6.2 หมื่นล้าน
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทอท.อยู่ระหว่างเร่งการปรับแบบก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเดิมออกแบบไว้ 7-8 ปี แล้ว ปัจจุบันต้นทุนต่างๆ ปรับเปลี่ยนไปมาก ทั้งราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน ดัชนีผู้บริโภค ที่สำคัญ จะมีการปรับเพิ่มในส่วนของเทคโนโลยีที่จะนำมาให้บริการผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น เช่น ติดตั้งระบบ Early Check- In และ Common Check- In ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารสามารถเข้ามาเช็กอินก่อนเวลาได้ โดยการปรับแบบจะแล้วเสร็จปลายปี 2565 และเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาหาผู้รับจ้างต้นปี 2566
ปัจจุบันระบบเช็กอินของสนามบินจะเปิดก่อนเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งจะมีผู้โดยสารที่เป็นกรุ๊ปทัวร์ หรือผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงสนามบินล่วงหน้า ก่อนเวลาเครื่องบินออกประมาณ 5-6 ชั่วโมงต้องรอเวลา และทำให้ผู้โดยสารแออัดบริเวณหน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน เกิดความไม่สะดวก หากมีระบบ Early Check-In ผู้โดยสารสามารถเช็กอินล่วงหน้าได้ โดยจะมีระบบตรวจเช็กโหลดกระเป๋าสัมภาระล่วงหน้าประมาณ 6-12 ชั่วโมง มีพื้นที่จัดเก็บกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร ระบบนี้จะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารและสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวของประเทศแบบ Short Day Trip
"การออกแบบอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกนั้น จะติดตั้งเครื่องมือ เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการและอำนวยความสะดวกขึ้นเพื่อตอบโจทย์การบริการในส่วนของหน้าบ้าน คือ เช็กอินและตรวจคนเข้าเมือง ขณะที่ระบบและพื้นที่หลังบ้าน คืออาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ขยายรองรับไว้แล้ว ก็จะทำให้การบริการไม่มีคอขวด เป็นการจัดสรรการใช้พื้นที่ให้เหมาะสม เกิดประโยชน์มากที่สุด"
แผนพัฒนาส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) นั้นมีพื้นที่ใช้สอย 66,000 ตร.ม. รองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี พื้นที่เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารปัจจุบัน วงเงินลงทุน 7,830 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยประเมินเบื้องต้นคาดว่ากรอบวงเงินใหม่จะปรับขึ้นประมาณ 30% ตามต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ไม่เกินกรอบวงเงินรวมโครงการก่อสร้างขยายสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินที่ 6.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังเหลืออยู่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ หลังปรับปรุงแบบเสร็จจะนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.อนุมัติ และนำเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) รับทราบ และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการปรับแบบ และกรอบวงเงินค่าก่อสร้างใหม่ ซึ่งไม่เกินจากกรอบที่ ครม.อนุมัติ
สำหรับแนวทางการปรับแบบก่อสร้างอาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกเพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางการบินในปัจจุบันใช้ระยะเวลา 7 เดือน แล้วเสร็จประมาณเดือนธันวาคม 2565 และคาดว่าจะนำเสนอบอร์ด ทอท.และ ครม.ได้ช่วงเดือนมกราคม 2565-มีนาคม 2566 และเปิดประมูลจัดหาผู้รับจ้างช่วงเดือนเมษายน 2566-กรกฎาคม 2566 และเริ่มก่อสร้างในเดือนสิงหาคม 2566-ธันวาคม 2568 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 29 เดือน แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2568