xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯเคาะรีดกำไรโรงกลั่น-โรงแยกก๊าซ8พันล.เข้ากองทุนฯเสริมสภาพคล่อง-ลดเบนซิน1บ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯถกทีมเศรษฐกิจเฟ้นหามาตรการบรรเทาค่าครองชีพและลดภาระราคาน้ำมันแพง ขอความร่วมมือโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซ ฯ เก็บกำไรส่วนรวมกว่า 8,000 ล้านบาทต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน(ก.ค.-ก.ย.) โดยราว 7,000 ล้านบาทส่งเข้ากองทุนฯเสริมสภาพคล่อง ขณะที่อีก1,000 ล้านบาทเล็งนำมาลดราคาเบนซิน 1 บาทต่อลิตร พร้อมต่ออายุมาตรการลดค่าครองชีพเกือบทุกมาตรการ เว้นมาตรการประกันสังคม ชงเข้า ครม.สัปดาห์หน้า

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน
เปิดเผยภายหลังการประชุมหน่วยงานเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง และลดผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (16 มิ.ย.) ว่า ในการบรรเทาผลกระทบประชาชนเรื่องราคาน้ำมันรัฐบาลได้มีการเจรจากับโรงกลั่นน้ำมัน และโรงแยกก๊าซทั้งหมดที่มีกำไรเพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นมาช่วยเหลือค่าน้ำมันประชาชนโดยส่งเงินเข้าสู่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อดูแลราคาดีเซล และลดราคาน้ำมันเบนซิน เป็นเงินรวมทั้งหมดประมาณ 7,500 – 8,000 ล้านบาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ค. – ก.ย.2565

โดยการเก็บเงินดังกล่าวประกอบด้วย 1 เก็บจากกลุ่มน้ำมันดีเซล จะนำเงินกำไรส่วนต่างที่เก็บได้ ประมาณเดือนละ 5,000 - 6,000 ล้านบาท/เดือน ส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเพื่อที่จะดูแลราคาดีเซล 2. กลุ่มน้ำมันเบนซิน จะนำเงินกำไรส่วนต่างที่เก็บได้ ประมาณเดือนละ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน มาลดราคาให้ผู้ใช้น้ำมันเบนซินในทันที คาดว่าจะสามารถลดราคาน้ำมันเบนซินหน้าปั๊มได้ประมาณลิตรละ 1 บาท

3. กระทรวงพลังงานยังขอความร่วมมือโรงแยกก๊าซที่มีต้นทุนก๊าซหุงต้ม(LPG) ที่จำหน่ายเป็นวัตถุดิบในภาคปิโตรเคมี ซึ่งมีกำไรส่วนเกิน ซึ่งจะดึงเงินกำไรส่วนเกินออกมา 50% เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง คาดว่าจะได้เงินเข้ากองทุนอีกเดือนละ 1,500 ล้านบาทต่อเดือนโดยกำไรส่วนนี้จะเก็บเข้าสู่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนเช่นกัน พร้อมกันนี้ยังขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันตรึงค่าการตลาดดีเซลไว้ไม่เกินลิตรละ 1.4 บาท

“มาตรการนี้เป็นการขอความร่วมมือจากภาคเอกชนทั้งในส่วนของผู้ประกอบการในประเทศและต่างประเทศ โดยได้รับความร่วมมืออย่างดี และไม่ต้องมีการออกกฎกระทรวง หรือประกาศกระทรวงแต่อย่างไร นายกุลิศ กล่าว

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า มาตรการที่จะมาดูแลลดค่าครองชีพและลดภาระราคาน้ำมันแพงให้กับประชาชนจะมีการนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบได้ในสัปดาห์หน้า โดยมาตรการใหม่เป็นเรื่องขอความร่วมมือโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซนำส่งกำไรส่วนต่าง ส่วนมาตรการเดิม เป็นการต่อมาตรการลดค่าครองชีพเดิมที่จะไปสิ้นสุดในเดือนก.ย.หรือต่ออีก 3 เดือน อาทิ การตรึงราคาค่าก๊าซ NGV สำหรับแท็กซี่ การให้ส่วนลดในการซื้อก๊าซหุงต้ม สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การให้ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค้าหาบเร่ แผงลอย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พร้อมทั้งมีมาตรการขอความร่วมมือภาคเอกชนช่วยประหยัดพลังงาน เช่น ปิดไฟป้ายโฆษณา และให้ห้างสรรพสินค้าปิดแอร์ก่อนปิดห้าง 1 ชั่วโมง ซึ่งกระทรวงพลังงานจะจัดทำรายละเอียดเสนอที่ประชุมครม.เห็นชอบต่อไป

นอกจากนี้กระทรวงการคลัง ยังเสนอมาตรการทางด้านภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปี นอกจากการต่อโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 คือ การสนับสนุนให้บริษัทต่าง ๆ หากพาพนักงานเดินทางท่องเที่ยวเมืองหลัก สามารถหักภาษีได้ 1.5 เท่า หากไปเที่ยวเมืองรอง สามารถหักภาษีได้ 2 เท่า รวมถึงการจัดงานในต่างจังหวัดก็นำค่าใช้จ่ายมาหักภาษีได้ด้วย โดยมาตรการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2565

ส่วนมาตรการช่วยเหลือลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ซึ่งที่ผ่านมามีการลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 นั้น จะไม่ได้ทำต่อเพราะกระทบต่อภาระของกองทุนประกันสังคม และปัจจุบันก็กำลังมีการเจรจาเรื่องค่าแรงขั้นต่ำอยู่ด้วย มาตรการนี้จึงสิ้นสุดอายุ
กำลังโหลดความคิดเห็น