จีเอฟพีทีจ่อปรับเป้ารายได้จากการขายปีนี้โตขึ้น 7-15% จากเดิมตั้งเป้าไว้ 5-10% ขณะที่มาร์จิ้นในไตรมาส 2 นี้ถูกกดดันจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่แพงขึ้น อัดงบลงทุนปีนี้พันล้านบาทขยายฟาร์มและโรงเชือดไก่
นายวีระ ธิตยางกรุวงศ์ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) (GFPT) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมทบทวนเป้าหมายรายได้จากการขายในปี 2565 จากเดิมที่คาดว่าเติบโต 5-10% เป็น 7-15% จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 13,780 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการในไตรมาส 2/2565 มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน
ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ในปีนี้ตั้งเป้าไว้ในระดับ 10-11% พบว่าในไตรมาส 1/2565 มีมาร์จิ้นสูงถึง 14.2% แต่ไตรมาส 2 นี้มาร์จิ้นจะได้รับแรงกดดันจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลือง ขณะที่ทิศทางราคาเนื้อไก่ปรับสูงขึ้นตามทิศทางราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยไตรมาส 1/2565 ราคาไก่เป็นเฉลี่ยอยู่ที่ 39-40 บาท/กก. และในปัจจุบันราคาขยับขึ้นมาเป็น 42-43 บาท/กก. ขณะที่ความต้องการบริโภคเนื้อไก่เพิ่มขึ้นจากราคาเนื้อหมูที่แพงสืบเนื่องจากซัปพลายหมูในตลาดลดลงจากโรคระบาด จากราคาวัตถุดิบสูงขึ้น
นอกจากนี้ การส่งออกเนื้อไก่ยังดีต่อเนื่องรับผลดีจากเงินบาทอ่อนค่า และการที่อังกฤษออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ทำให้ไทยสามารถส่งออกไปอังกฤษได้โดยตรง ไม่ต้องอยู่ภายใต้โควตาของกลุ่มอียู และมีตลาดใหม่อย่างซาอุดีอาระเบียเข้ามาเพิ่ม ขณะเดียวกันราคาส่งออกก็ดีขึ้นด้วย
สำหรับงบลงทุนในปีนี้ บริษัทตั้งงบลงทุน 1-1.2 พันล้านบาท เพื่อขยายฟาร์มเลี้ยงไก่ และโรงเชือดไก่ จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตหรือเชือดไก่ 3.4 แสนตัว/วัน และเนื้อไก่ปรุงสุก 24,000 ตัน/วัน