ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ฯ จ่อปรับราคาเนื้อไก่สดหลังต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งไม่หยุด วอนรัฐบาลเลิกตรึงราคา ชี้ที่ผ่านมาแบกรับภาระทุกด้าน ยันแม้ส่งออกต่างประเทศดี แต่ต้นทุนสูงทำเสียเปรียบคู่แข่ง
ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือฉวีวรรณ ผู้ส่งออกเนื้อไก่ไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ เผยว่า ตามที่สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ฯ ได้ตรึงราคาขายเนื้อไก่ในประเทศตามที่รัฐบาลกำหนดเพื่อช่วยลดความเดือดร้อนของประชาชนในยุคข้าวยากหมากแพงนั้น ขณะนี้ผู้ประกอบการเริ่มแบกรับไม่ไหว
และที่ผ่านมาได้พยายามที่จะขอปรับขึ้นราคาเนื้อไก่สดเพื่อให้สอดคล้องกับราคาข้าวโพดซึ่งถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตอาหารสัตว์ที่ขณะนี้พุ่งสูงถึง 13 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนกากถั่วที่ขยับขึ้นถึง 22.80 บาทต่อกิโลกรัม
โดยล่าสุดจำเป็นต้องปรับราคาไก่หน้าฟาร์มเป็น 42 บาทต่อกิโลกรัม จากเดือนมกราคม 2565 ที่ราคา 39 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไม่ขาดทุน อย่างไรก็ตามยืนยันว่าราคาเนื้อไก่และชิ้นส่วนต่างๆ ในตลาดสด ณ วันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ราคาไก่ทั้งตัวยังอยู่ที่เฉลี่ยต่อกิโลกรัมอยู่ที 75 บาท อกไก่ 85 บาท น่องไก่ 65 บาท ถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุนการเลี้ยงที่เพิ่มสูงขึ้น
"ทั้งนี้หากรัฐบาลยังไม่อนุญาตให้ปรับราคาขายถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ และสิ่งที่อยากร้องขอต่อรัฐบาลคือ การเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องค่าครองชีพ รวมทั้งการเปิดทางให้ผู้ประกอบการในภาคเกษตรปศุสัตว์ได้นำเข้าวัตถุดิบอย่างเสรี เพราะผู้ประกอบการย่อมมีความรู้ความสามารถในการสรรหาแหล่งวัตถุดิบราคาถูกได้ดีกว่า และสามารถผลิตสินค้าป้อนตลาดได้ตรงกับความต้องการของประชาชน"
อย่างไรก็ดี แม้สถานการณ์การส่งออกเนื้อไก่ไทยไปต่างประเทศจะยังดียู่จากความต้องการที่ยังมีอยู่สูงทั้งในยุโรป ญี่ปุ่น และจีนแต่เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นทำให้เกิดการเสียเปรียบทางการแข่งขัน ซึ่งแม้ที่ผ่านมาจะได้ขอปรับราคาขายกับคู่ค้าแต่ทำได้เพียงไม่กี่ครั้ง เพราะหากปรับสูงเกินไปคู่ค้าก็จะหันไปซื้อสินค้าจากประเทศอื่นแทน