GPSC มั่นใจผลดำเนินงานไตรมาส 2/2565 ฟื้นตัวขึ้น หลังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า Glow Enerygy เฟส 5 ที่กลับมาเดินเครื่องเต็มที่อีกครั้ง ดันมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นเดือนละ 150 ล้านบาท และการปรับขึ้นค่า Ft ช่วยลดผลกระทบจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น คาดครึ่งปีหลังราคาก๊าซฯ ส่อแววปรับลดลงและรัฐทยอยปรับขึ้นค่า Ft
นางศิโรบล บุญถาวร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสการเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 ว่า บริษัทมีผลประกอบการดีขึ้นจากปัจจัยหนุนหลักสำคัญมาจากการที่โรงไฟฟ้า Glow Enerygy เฟส 5 กลับมาเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเต็มกำลังอีกครั้งตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากปิดซ่อมทำให้มีไฟฟ้าเข้าไปป้อนกลุ่มลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทมีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น 150 ล้านบาทต่อเดือน และการปรับขึ้นค่า Ft ในช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. 65 มาชดเชยต้นทุนค่าก๊าซและถ่านหินที่เป็นต้นทุนค่าเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าที่อยู่ในระดับสูงได้
ขณะเดียวกันยังมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่มาจากการถือหุ้นใน Avaada Energy ในประเทศอินเดีย ซึ่งมีการทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามา ประกอบกับทาง Avaada Energy มีการ Refinance ทำให้ต้นทุนทางด้านการเงินปรับตัวลดลงได้จาก 9% มาอยู่ที่ 7%
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบด้านราคาต้นทุนค่าเชื้อเพลิงทั้งก๊าซฯ และถ่านหินเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้ายังอยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยที่กดดันภาพรวมของผลการดำเนินงานของบริษัทอยู่ในช่วงครึ่งปีแรก แต่มองว่าแนวโน้มของราคาก๊าซฯ ในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะปรับลดลงบ้าง รวมทั้งการทยอยปรับขึ้นค่า Ft ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ที่คาดว่าอาจจะมีการปรับขึ้นในช่วงปลายปีนี้ราว 0.65 สตางค์/หน่วย และในปี 2566 เพิ่มขึ้นอีก เพื่อชดเชยต้นทุนค่าก๊าซฯ และถ่านหินที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้า
นางศิโรบลกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างว่า ขณะนี้บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างหลายโครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้า SPP Replacement Glow Energy เฟส 2 กำลังการผลิตไฟฟ้า 192 เมกะวัตต์ ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 73% คาดว่าจะจ่ายไฟเชิงพาณิชย์( COD) ได้ในช่วงไตรมาส 4/2565, โครงการ Energy Recovery Unit (ERU) กำลังการผลิต 250 เมกะวัตต์ ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้วเกือบ 79% คาดว่าจะสามารถ COD ได้ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 2566
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง ขนาดกำลังการผลิตรวม 595 เมกะวัตต์ สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี กับบริษัท Taiwan Power Company เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้กับบริษัทอีก 149 เมกะวัตต์ บริษัทอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 25% ในโครงการนี้คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของดีลดังกล่าวภายในปีนี้
