“จุรินทร์” เผยคณะอนุกรรมการ 5 ฝ่าย ตั้งวอร์รูมดูแลน้ำมันปาล์มทั้งระบบ กำหนดมาตรการให้ราคาผลปาล์มที่เกษตรกรขายได้ยังดี และราคาน้ำมันปาล์มบริโภคไม่สูงเกินไป ตามนโยบาย “วิน-วิน โมเดล” พร้อมสั่งตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มทุก 7 วัน เน้นมีเสถียรภาพ ไม่ขาดแคลน ล่าสุดผลปาล์มเริ่มลง หลังผลผลิตออก อินโดนีเซียกลับมาส่งออก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงประเด็นราคาน้ำมันปาล์มบริโภค ว่า ขณะนี้การแก้ไขในเรื่องของราคาน้ำมันปาล์มบริโภคได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาแล้ว ประกอบด้วย 1. ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม 2. ตัวแทนโรงงานสกัด 3. ตัวแทนโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มบริโภค 4. ผู้แทนการส่งออกน้ำมันปาล์ม และ 5. ภาครัฐ เพื่อตั้งเป็นวอร์รูมพิจารณาตัดสินใจกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อทำให้ราคาผลปาล์มดิบที่เกษตรกรขายได้ยังดีอยู่ และขณะเดียวกันก็ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดบริโภคไม่ราคาสูงเกินไป ให้สมเหตุสมผลทุกฝ่าย ตามแนวของตนที่เป็น “วิน-วินโมเดล” โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้จะเป็นผู้ดูแล และจะมีมาตรการต่างๆ ออกมา
ทั้งนี้ ยังได้สั่งการให้ตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มที่โรงสกัดทุก 7 วัน เป้าหมายมี 2 ข้อ คือ 1. ดูราคาทั้งราคาผลปาล์มและราคาน้ำมันขวดบริโภคให้มีเสถียรภาพ และ 2. ป้องกันไม่ให้น้ำมันปาล์มบริโภคขาดแคลนสำหรับพี่น้องประชาชน
ส่วนการปรับสูตรน้ำมันไบโอดีเซลที่มีผู้เสนอให้นำน้ำมันปาล์มออกจากการผสมกับน้ำมันดีเซล ขอให้เป็นเรื่องที่คณะนโยบายพลังงานแห่งชาติเป็นผู้พิจารณาว่าจะมีผลกี่เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขเป็นอย่างไร และผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ราคาผลปาล์มดิบใน 3 จังหวัด ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ของประเทศ คือ สุราษฎร์ธานี ชุมพร กระบี่ มีแนวโน้มลดลง โดยล่าสุดข้อมูลจากกรมการค้าภายใน แจ้งว่าราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 8.2-9.4 บาท จากที่เคยขึ้นไป 12 บาท ขณะที่น้ำมันปาล์มดิบ กก.ละ 52.50-53.50 บาท ลดลงจากต้นเดือนที่ กก.ละ 60.5-64 บาท โดยมีสาเหตุมาจากผลผลิตปาล์มออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับอินโดนีเซียส่งสัญญาณกลับมาส่งออกน้ำมันปาล์มอีกครั้ง
