“จุรินทร์” โชว์นโยบายผลักดัน BCG ของไทย ยันมุ่งขับเคลื่อน SMEs และ Micro SMEs ให้พัฒนาภาคการผลิตและภาคบริการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีแผนผลักดันออกสู่ตลาดโลก เผยผ่าน 6 เดือน หลังขับเคลื่อนดันมูลค่าโตแล้วกว่า 7 เท่าตัว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดงานเสวนานานาชาติ APEC BCG Symposium 2022 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ว่า วัตถุประสงค์ของการเสวนาที่กระทรวงพาณิชย์ ประเทศไทย จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่อง BCG Model (Bio-Circular-Green Economy) และต้องการให้เวทีนี้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติ และประสบการณ์ในการใช้โมเดลเศรษฐกิจแบบ BCG และแลกเปลี่ยนนโยบายภาครัฐและการส่งเสริมให้ MSMEs ปรับตัวเข้าสู่การใช้ BCG Model ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในกลุ่มเขตเศรษฐกิจเอเปกต่อไป
สำหรับ BCG Model ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ 1. Bio Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เพื่อนำความหลากหลายทางชีวภาพของกลุ่มเขตเศรษฐกิจเอเปกและไทยมาใช้ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ 2. เศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ของประเทศให้เกิดความคุ้มค่าเกิดของเสียที่ทำลายสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด หรือ Reduce และเพื่อนำของเหลือใช้หรือผลิตผลพลอยได้มาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจ หรือ Reuse และสุดท้าย Recycle นำของใช้แล้วกลับมาผลิตใช้ใหม่เพื่อเป็นมิตรต่่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด และ 3. Green Economy เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจทั้งภาคการผลิตและบริการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลักและเพื่อให้ภาคการผลิตและภาคบริการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด
นายจุรินทร์กล่าวว่า BCG Model ของไทย จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ ทั้งไทย กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเอเปก และโลกในอนาคต ทั้งการสร้างรายได้และกระจายรายได้ และวันนี้มุ่งเน้นให้ SMEs และ Micro SMEs พัฒนาภาคการผลิตและภาคการบริการโดยใช้ BCG Model เป็นด้านหลัก เพื่อให้ภาคการผลิตและบริการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตนเชื่อว่าเป็นเป้าหมายร่วมกันของเขตเศรษฐกิจเอเปกทุกเขต
ทั้งนี้ ประเทศไทยประกาศ BCG Model เป็นวาระแห่งชาติเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2021 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นโมเดลทางเศรษฐกิจที่นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนสอดคล้องกับ SDGs Goal ของสหประชาชาติ 17 ข้อ (Sustainable Development Goals-SDGs หรือเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน) และหลายประเทศก็กำลังเดินหน้าเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ เช่น ออสเตรเลีย มีแผนพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพในรัฐควีนส์แลนด์ สิงคโปร์ มีนโยบาย Zero Waste Master Plan ที่มุ่งไปสู่การปลอดขยะของประเทศ และจีนมีแผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 14 ที่สอดคล้องกับเป้าหมาย และประเทศแคนาดาใช้นโยบายไบโอดิจิทัล คอนเวอร์เจนซ์ (Bio-Digital Convergence) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบผสมผสานระหว่างระบบสิ่งมีชีวิตกับเทคโนโลยีดิจิทัล
โดยตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของไทย หลังจากประกาศเป็นวาระแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ที่ตนรับผิดชอบได้มีการแยกหมวดการสนับสนุนส่งเสริมสินค้าและบริการเป็นหมวด BCG โดยเฉพาะ ทั้งการผลิตสินค้าแห่งอนาคต อาหารฟังก์ชัน อาหารทางการแพทย์ อาหารออร์แกนิก สินค้าไลฟ์สไตล์ และสินค้าวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise ทั้งหมดนี้กำลังขับเคลื่อนโดยใช้ BCG Model และแยกตัวเลขให้เห็นชัด เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจใน 6 เดือนตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว ถึงไตรมาสแรกปีนี้ มีมูลค่าการค้าในหมวดนี้เพิ่มขึ้นถึง 7 เท่าตัว
“หวังว่าการเสวนานานาชาติ APEC BCG Symposium 2022 จะทำให้สมาชิกเอเปกแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หาหนทางใหม่ในการขับเคลื่อนร่วมกัน และเพื่อให้การประชุมเอเปกที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ Open Connect Balance บรรลุตามวัตถุประสงค์ต่อไป” นายจุรินทร์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเปิดงานเสาวนา นายจุรินทร์ได้เยี่ยมชมบูทผู้ประกอบการไทย ประกอบด้วย SCG, PTTGC, Dow, CPF และ ThaiBev เป็นต้น ที่นำผลิตภัณฑ์สินค้าเกี่ยวกับ BCG มาจัดแสดง และเยี่ยมชม นิทรรศการ BCG ที่นำผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่ม BCG Model มาจัดแสดงจากหลายประเทศที่เป็นสมาชิกการประชุมเขตเศรษฐกิจเอเปก 21 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สิงคโปร์ จีนไต้หวัน ญี่ปุ่น จีนฮ่องกง และจีน เป็นต้น