ปตท.เผยดีมานด์การใช้ก๊าซธรรมชาติไตรมาส 2/65 โตขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนที่ขยับขึ้น 6% เนื่องจากราคา LNG อ่อนตัวลงมาแตะ 20 เหรียญ/ล้านบีทียู เหมาะสมในการใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าอีกครั้ง คาดทั้งปีไทยนำเข้า LNG ราว 10 ล้านตัน พร้อมเร่งศึกษาแผนเก็บกัก LNG ช่วงจังหวะราคาถูกตามนโยบายรัฐ ชี้แนวโน้มราคา LNG อยู่ในช่วงขาขึ้น 2-3 ปีนี้ จ่อยืดเวลาชำระค่าเชื้อเพลิงให้กฟผ.นานขึ้น หลังควักเนื้อ 1 หมื่นล้านบาทช่วยเหลือลูกค้าก๊าซธรรมชาติในช่วงที่ราคาพลังงานผันผวน
นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) เปิดเผยว่า ในปี 2565 ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในประเทศจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยในไตรมาส 1/2565 ความต้องการใช้ก๊าซฯ เฉลี่ยอยู่ที่ 4,420 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือเติบโตขึ้น 5-6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2564 โดยภาคการผลิตไฟฟ้ามีความต้องการใช้ก๊าซฯ อยู่ที่ 2,650 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมก็มีการใช้ก๊าซฯที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
สำหรับไตรมาส 2 นี้คาดว่าความต้องการใช้ก๊าซฯ จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1 /2565 เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ตลาดโลกได้ปรับลดลงมาอยู่ 20 -21เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียูจากช่วงต้นเดือน มี.ค. 2565 ราคาปรับขึ้นไปสูงถึง 84-85 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ซึ่งราคา LNG ปัจจุบันนี้เป็นระดับราคาที่ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้มากกว่าการใช้น้ำมันเพื่อผลิตไฟฟ้าแล้ว
ทั้งนี้ ปตท.อยู่ระหว่างหารือกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อ LNG ในช่วงราคาตลาดโลกอ่อนตัวลง เพื่อเก็บไว้ใช้ตามนโยบายของกระทรวงพลังงานที่ต้องการลดภาระต้นทุนค่าไฟฟ้า โดยคาดว่าจะมีแนวทางที่ชัดเจนออกมาในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันก่อนเข้าสู่ฤดูหนาวในต่างประเทศที่ราคา LNG โลกปรับราคาสูงขึ้น
โดยแนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติจะยังเป็นขาขึ้นไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดย ปตท.ได้เตรียมความพร้อมรองรับการนำเข้า LNG เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งโครงการก่อสร้างคลังจัดเก็บและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Receiving Terminal) แห่งที่ 2 จังหวัดระยอง ระยะแรกจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในช่วงปลายเดือน มิ.ย.หรือต้น ก.ค.นี้ ซึ่งจะรองรับการนำเข้า LNG ได้ 2.5 ล้านตัน และสิ้นปีนี้จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ พร้อมรองรับนำเข้า LNG ได้ถึง 7.5 ล้านตัน เมื่อรวมกับ Terminal แห่งที่ 1 ประเทศไทยจะมีศักยภาพรองรับ LNG ได้ถึง 19 ล้านตันต่อปี
นายวุฒิกรกล่าวว่า ในปีนี้ประเทศไทยต้องการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รวมประมาณ 10 ล้านตัน แบ่งเป็นสัญญา LNG ระยะยาวของ ปตท.ประมาณ 5 ล้านตัน และอีก 5 ล้านตันเป็นการนำเข้า LNG ตลาดจร (Spot) กกพ.ได้อนุมัติให้ปตท.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำเข้า LNG ในปีนี้ โดยเดือนพฤษภาคมนี้ ปตท.มีการนำเข้า LNG ประมาณ 3-4 ลำ และ กฟผ.นำเข้าประมาณ 2-3 ลำ โดยช่วงต้นปีนี้ส่วนใหญ่ปตท.นำเข้า LNG และ กฟผ.ได้เริ่มนำเข้าเมื่อเดือนเมษายนจำนวน 1-2 ลำ
นอกจากนี้ ปตท.อยู่ระหว่างการขออนุมัติแนวทางการช่วยเหลือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแบ่งเบาภาระการชำระเงินค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า โดยจะขยายระยะเวลาการชำระเงินให้แก่ กฟผ.เพิ่มขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมา กฟผ.ซื้อก๊าซฯ จาก ปตท.เพื่อผลิตไฟฟ้าราว 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน คิดเป็นวงเงินเฉลี่ยเดือนละ 6,000-7,000 ล้านบาท แต่เมื่อราคาพลังงานปรับสูงขึ้นและไทยต้องนำเข้า LNG ตลาดจร (Spot) ในราคาที่สูง ส่งผลให้ กฟผ.มีภาระต้องจ่ายค่าก๊าซฯ ปตท.เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 12,000-13,000 ล้านบาท ขณะที่ กฟผ.รับภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในช่วงเดือนกันยายน 2564 ถึงเมษายน 2565 แทนประชาชนเป็นการชั่วคราวคิดเป็นวงเงินราว 60,000 ล้านบาท
“ขณะนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดแนวทางช่วยเหลือ กฟผ.ได้ เพราะอยู่ระหว่างการขออนุมัติหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปกติเทอมการชำระเงิน ถ้า ปตท.ส่งก๊าซฯให้ กฟผ.ในเดือน พ.ค.ก็จะวางบิลเรียกเก็บเงินค่าก๊าซฯ ในวันที่ 10 มิถุนายน และกำหนดชำระในปลายเดือนมิถุนายน”
ที่ผ่านมา ปตท.ได้ช่วยเหลือลูกค้าก๊าซธรรมชาติในช่วงที่ราคาพลังงานผันผวนด้วย ได้แก่ กลุ่มผู้ใช้ก๊าซเอ็นจีวี สำหรับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ผ่านมาตรการ NGV เพื่อลมหายใจเดียวกัน โดยคงราคาที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม และรถทั่วไปที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัมถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2565 คิดเป็นวงเงิน 3,322 ล้านบาท, กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม โดย ปตท.ได้รับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ราคาสำหรับภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นวงเงิน 6,857 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเพิ่มทางเลือกในการจำหน่ายก๊าซฯ เพิ่มเติมให้กับโรงงานอุตสาหกรรม
สำหรับกลุ่มลูกค้าไฟฟ้า SPP มีแนวทางช่วยเหลือลูกค้า SPP (สำหรับค่าก๊าซที่ใช้ในอุตสาหกรรม) จากส่วนลดการส่งเสริมการขายเป็นระยะเวลา 3 เดือนเป็นวงเงิน 255 ล้านบาท, กลุ่มผู้ใช้ก๊าซฯ LPG โดยช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซ LPG แก่กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน 100 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่ง ปตท.สนับสนุนมาตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง 30 มิถุนายน 2565 เป็นวงเงิน 18 ล้านบาท