xs
xsm
sm
md
lg

Salesforce เปิดตัวแพลตฟอร์ม Net Zero Cloud 2.0 ชู ‘ความยั่งยืน’ เป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของบริษัท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day ที่ตรงกับเดือน เมษายนของทุกๆ ปี เปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของการดูแลและปกป้องสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ในปี 2022 เซลส์ฟอร์ซแสดงจุดยืนเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยประกาศเพิ่ม ‘ความยั่งยืน’ หรือ Sustainability เป็นอีกหนึ่งในค่านิยมหลักประจำองค์กร นอกเหนือจากค่านิยมเดิม ได้แก่ ความไว้วางใจ(Trust), ความสำเร็จของลูกค้า (Customer Success), นวัตกรรม (Innovation), และความเท่าเทียม (Equality) พร้อมทั้งเปิดตัวแพลตฟอร์ม Net Zero Cloud 2.0 ซึ่งเป็นโซลูชันติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อเป็นตัวช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลก สามารถเร่งดำเนินการสู่ Net Zero หรือการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์

Salesforce ชู ‘ความยั่งยืน’ เป็นค่านิยมหลักของบริษัท

ที่เซลส์ฟอร์ซ การตัดสินใจต่างๆ ของบริษัทขับเคลื่อนด้วยค่านิยม พนักงานทุกคนทราบดีว่าค่านิยมทั้ง 5 ของเซลส์ฟอร์ซมีความสำคัญอย่างมากทั้งต่อการทำงานไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขา

ในปัจจุบันเซลส์ฟอร์ซได้บรรลุเป้าหมาย net zero emissions เป็นที่เรียบร้อย ทั้งยังได้มีการนำส่ง รายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 มาโดยตลอด นอกจากนี้ยังได้ขยายขอบเขตด้านกลยุทธ์ โดยมีการจัดทำการประชุม สร้างนโยบายและเป้าหมายกับ ผู้กำหนดนโยบาย, ผู้ร่วมงาน, พันธมิตร, ซัปพลายเออร์ และลูกค้า เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมในเป้าหมาย Net Zero

ก้าวสู่ยุคใหม่กับ Net Zero Cloud รุ่นล่าสุด

ในยุคที่ความรับผิดชอบกับปัญหาด้านสภาวะอากาศของโลกเป็นสิ่งสำคัญ องค์กรที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อความน่าเชื่อถือของข้อมูลรายงานการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไม่ต่างกันกับความสำคัญของข้อมูลทางการเงินขององค์กร นอกจากนี้ ยังต้องรู้วิธีการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยวิธีที่น่าเชื่อถือและเห็นผล


Net Zero Cloud 2.0 ได้ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สามารถรายงานข้อมูลที่สมบูรณ์และน่าเชื่อถือ ให้เกิดข้อมูลเชิงลึกเพื่อการตัดสินใจ และให้สามารถบริหารจัดการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากซัปพลายเชนขององค์กร เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้ ณ วันนี้ ด้วยความสามารถของ Net Zero Cloud 2.0 ซึ่งองค์กรต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกด้านความยั่งยืนผ่านแดชบอร์ดของ Tableau CRM ที่จะใช้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยความสามารถดังต่อไปนี้ :

Carbon Footprint Forecast : การพยากรณ์คาร์บอนฟุตพรินต์ องค์กรต่างๆ สามารถมองหาวิธีที่เร็วที่สุดในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ผ่านการวิเคราะห์ ‘what-if’ ที่ช่วยให้สามารถประเมินผลที่จะเกิดขึ้นจากแต่ละแนวทางปฏิบัติ เพื่อให้กำหนดแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องไปกับเป้าหมายด้านการจัดการสภาวะอากาศและสิ่งแวดล้อมขององค์กร

Science-Based Targets : ตั้งเป้าหมายขององค์กรให้สอดคล้องไปกับค่าการวัดได้ทางวิทยาศาสตร์ และทำการตรวจวัดความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

Supplier Management : การจัดการเครือข่ายซัปพลายเออร์ หรือที่เรียกว่า Scope 3 โดยติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทั้งระบบ value chain ตั้งแต่บริษัทซัปพลายเออร์ทั้งหลายไปจนถึงเครือข่ายของตัวแทนจัดจำหน่าย (distributors) ให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทั้งเครือข่าย

Waste Data Management : การจัดการข้อมูลของเสีย องค์กรต่างๆ สามารถอัปโหลดและติดตามข้อมูลการจัดการทั้งของเสียอันตรายและไม่อันตราย รวมถึงวิธีการบำบัดหรือจัดการ เช่น ฝังกลบ หมัก หรือเผา ทั้งหมดในแพลตฟอร์มเดียว

ลูกค้าและพันธมิตรที่กำลังใช้งาน Net Zero Cloud

พันธมิตรด้านที่ปรึกษาของเซลส์ฟอร์ซ ไม่ว่าจะเป็น Accenture, KPMG, Orion Global Solutions, PwC, Slalom และ Traction on Demand กำลังติดตั้งแพลตฟอร์ม Net Zero Cloud กับลูกค้าของตนเองในอุตสาหกรรมต่างๆ และนอกจากนี้ พันธมิตรเหล่านี้ยังมีการบริการให้คำปรึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่สำคัญสำหรับลูกค้า เพื่อเร่งมือสู่การเป็นบริษัท Net Zero อีกด้วย

หนึ่งในลูกค้าของเซลส์ฟอร์ซอย่าง Mastercard ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกแห่งอุตสาหกรรมการเงินก็ได้นำ Net Zero Cloud มาใช้ โดยมี Accenture เป็นที่ปรึกษาและนำเอาข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนของซัปพลายเออร์ เพื่อทำให้ทางบริษัทสามารถทำงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการปฏิบัติการทั้งระบบ

คำกล่าวจากผู้บริหาร :


คุณซูซาน ดิบิเองก้า Chief Impact Officer & EVP of Corporate Relations ของเซลส์ฟอร์ซ กล่าวว่า “เซลส์ฟอร์ซรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ในตอนนี้เรามีความยั่งยืนเข้ามาเป็นอีกหนึ่งค่านิยมหลักอย่างเป็นทางการขององค์กรเรา ซึ่งมันถือเป็นส่วนหนึ่งในความรับผิดชอบหลักของพนักงานทุกคนที่เซลส์ฟอร์ซ โดยที่เรานำสิ่งที่ถูกกำหนดเป็นคุณค่า (value) ขององค์กร มาปรับใช้ในทุกสิ่งที่เราทำในการดำเนินธุรกิจ และในกรณีวิกฤตทางสภาพอากาศในปัจจุบันนี้ ทางเซลส์ฟอร์ซตระหนักถึงความจำเป็นและเร่งด่วนที่ทุกองค์กรจะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero ได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยขณะนี้ทางเซลส์ฟอร์ซเองได้บรรลุเป้าหมาย Net Zero การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์สำเร็จแล้ว และเราต้องการใช้เทคโนโลยีและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่เราได้เรียนรู้และดำเนินการมาช่วยสนับสนุนองค์กรต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนนี้ด้วยเช่นกัน”


คุณกิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์ รองประธานประจำภูมิภาคและกรรมการผู้จัดการ เซลส์ฟอร์ซ ประเทศไทย กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เรากำลังเผชิญส่งผลกระทบต่อทุกคนและทุกสิ่งรอบตัวเรา เราทุกคนจำเป็นต้องมองหาวิธีการ พร้อมทั้งร่วมมือกันดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยประสิทธิภาพจากเทคโนโลยีที่มีอยู่และการร่วมมือกันของทุกฝ่าย เราจะสามารถก้าวสู่วิถีชีวิตที่ยั่งยืนและการดำเนินธุรกิจที่บรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และนี่คือเหตุผลที่เซลส์ฟอร์ซได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Net Zero Cloud ให้เข้ามาช่วยสนับสนุนองค์กรไม่ว่าเล็กหรือใหญ่สามารถเร่งกำหนดแนวทางการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมุ่งสู่การเป็น Net Zero ได้อย่างเป็นรูปธรรม”

กรุณากดที่ลิงก์ด้านล่าง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ:

Salesforce Sustainability

แคมเปญ #TeamEarth

วิธีการที่เซลส์ฟอร์ซปรับใช้ Climate Action Plan

พันธมิตรของเซลส์ฟอร์ซ

พันธมิตรด้านความยั่งยืนระหว่าง Accenture กับ Salesforce


กำลังโหลดความคิดเห็น