เซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) เปิดตัว Net Zero Cloud 2.0 แพลตฟอร์มเพื่อเป็นตัวช่วยให้องค์กรตรวจสอบและจัดการปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน เพื่อบรรลุเป้าหมายในการรักษาสิ่งแวดล้อม ลุยเดินหน้าเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพิ่ม ‘ความยั่งยืน’ เป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของบริษัทที่พนักงานทุกคนในองค์กรต้องร่วมมือกัน
ซูซาน ดิบิเองก้า Chief Impact Officer & EVP of Corporate Relations ของเซลส์ฟอร์ซ กล่าวว่า เซลส์ฟอร์ซรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทมีความยั่งยืนเข้ามาเป็นอีกหนึ่งค่านิยมหลักอย่างเป็นทางการขององค์กร ถือเป็นส่วนหนึ่งในความรับผิดชอบหลักของพนักงานทุกคนที่เซลส์ฟอร์ซ โดยนำคุณค่าขององค์กรมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อวิกฤตทางสภาพอากาศในปัจจุบันนี้
"ทางเซลส์ฟอร์ซตระหนักถึงความจำเป็นและเร่งด่วนที่ทุกองค์กรจะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยขณะนี้ทางเซลส์ฟอร์ซเองได้บรรลุเป้าหมาย Net Zero การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์สำเร็จแล้ว และเราต้องการใช้เทคโนโลยีและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่เราได้เรียนรู้และดำเนินการมาช่วยสนับสนุนองค์กรต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนนี้ด้วยเช่นกัน"
เซลส์ฟอร์สย้ำว่า โลกได้มาถึงยุคที่บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องมีข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เชื่อถือได้ เพื่อเร่งต่อยอดไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ดังนั้นเซลส์ฟอร์ซจึงมุ่งแสดงจุดยืนเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยประกาศเพิ่ม ‘ความยั่งยืน’ หรือ Sustainability เป็นอีกหนึ่งในค่านิยมหลักประจำองค์กร นอกเหนือจากค่านิยมเดิม ได้แก่ ความไว้วางใจ (Trust) ความสำเร็จของลูกค้า (Customer Success) นวัตกรรม (Innovation) และความเท่าเทียม (Equality) พร้อมทั้งเปิดตัวแพลตฟอร์ม Net Zero Cloud 2.0 ซึ่งเป็นโซลูชันติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อเป็นตัวช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลก สามารถเร่งดำเนินการสู่ Net Zero หรือการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์
ด้านนายกิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์ รองประธานประจำภูมิภาคและกรรมการผู้จัดการ เซลส์ฟอร์ซ ประเทศไทย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่โลกกำลังเผชิญส่งผลกระทบต่อทุกคนและทุกสิ่งรอบตัว ทุกคนจำเป็นต้องมองหาวิธีการ พร้อมทั้งร่วมมือกันดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยประสิทธิภาพจากเทคโนโลยีที่มีอยู่และการร่วมมือกันของทุกฝ่ายจะสามารถก้าวสู่วิถีชีวิตที่ยั่งยืนและการดำเนินธุรกิจที่บรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
"นี่คือเหตุผลที่เซลส์ฟอร์ซได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Net Zero Cloud ให้เข้ามาช่วยสนับสนุนองค์กรไม่ว่าเล็กหรือใหญ่สามารถเร่งกำหนดแนวทางการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมุ่งสู่การเป็น Net Zero ได้อย่างเป็นรูปธรรม”
ปัจจุบัน เซลส์ฟอร์ซได้บรรลุเป้าหมาย net zero emissions ทั้งยังได้มีการนำส่งรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 มาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังได้ขยายขอบเขตด้านกลยุทธ์โดยมีการจัดทำการประชุม สร้างนโยบายและเป้าหมายกับผู้กำหนดนโยบาย ผู้ร่วมงาน พันธมิตร ซัปพลายเออร์ และลูกค้า เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมในเป้าหมาย Net Zero
สำหรับ Net Zero Cloud รุ่นล่าสุด บริษัทมองว่าในยุคที่ความรับผิดชอบกับปัญหาด้านสภาวะอากาศของโลกเป็นสิ่งสำคัญ องค์กรที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของข้อมูลรายงานการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไม่ต่างกันกับความสำคัญของข้อมูลทางการเงินขององค์กร นอกจากนี้ ยังต้องรู้วิธีการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยวิธีที่น่าเชื่อถือและเห็นผล
Net Zero Cloud 2.0 จึงถูกพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สามารถรายงานข้อมูลที่สมบูรณ์และน่าเชื่อถือ ให้เกิดข้อมูลเชิงลึกเพื่อการตัดสินใจ และให้สามารถบริหารจัดการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากซัปพลายเชนขององค์กร เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้ ณ วันนี้ ด้วยความสามารถของ Net Zero Cloud 2.0 ซึ่งองค์กรต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกด้านความยั่งยืนผ่านแดชบอร์ดของ Tableau CRM ที่จะใช้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยความสามารถ 4 ด้าน
ด้านแรกคือ Carbon Footprint Forecast การพยากรณ์คาร์บอนฟุตพรินต์ ซึ่งองค์กรต่างๆ สามารถมองหาวิธีที่เร็วที่สุดในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ผ่านการวิเคราะห์ ‘what-if’ ที่ช่วยให้สามารถประเมินผลที่จะเกิดขึ้นจากแต่ละแนวทางปฏิบัติ เพื่อให้กำหนดแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องไปกับเป้าหมายด้านการจัดการสภาวะอากาศและสิ่งแวดล้อมขององค์กร
ด้านที่ 2 คือ Science-Based Targets หรือการตั้งเป้าหมายขององค์กรให้สอดคล้องไปกับค่าการวัดได้ทางวิทยาศาสตร์ และทำการตรวจวัดความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ด้านที่ 3 คือ Supplier Management หรือการจัดการเครือข่ายซัปพลายเออร์ หรือที่เรียกว่า Scope 3 โดยติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทั้งระบบ value chain ตั้งแต่บริษัทซัปพลายเออร์ทั้งหลาย ไปจนถึงเครือข่ายของตัวแทนจัดจำหน่าย (distributors) ให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทั้งเครือข่าย
ด้านที่ 4 คือ Waste Data Management หรือการจัดการข้อมูลของเสีย องค์กรต่างๆ สามารถอัปโหลดและติดตามข้อมูลการจัดการทั้งของเสียอันตรายและไม่อันตราย รวมถึงวิธีการบำบัดหรือจัดการ เช่น ฝังกลบ หมัก หรือเผา ทั้งหมดในแพลตฟอร์มเดียว
การใช้งาน Net Zero Cloud จะดำเนินผ่านพันธมิตรด้านที่ปรึกษาของเซลส์ฟอร์ซ ทั้ง Accenture, KPMG, Orion Global Solutions, PwC, Slalom และ Traction on Demand ล้วนกำลังติดตั้งแพลตฟอร์ม Net Zero Cloud กับลูกค้าของบริษัทในอุตสาหกรรมต่างๆ และนอกจากนี้ พันธมิตรเหล่านี้ยังมีการบริการให้คำปรึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่สำคัญสำหรับลูกค้า เพื่อเร่งมือสู่การเป็นบริษัท Net Zero อีกด้วย
หนึ่งในลูกค้าหลักของเซลส์ฟอร์ซคือ Mastercard หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกแห่งอุตสาหกรรมการเงิน ซึ่งได้นำ Net Zero Cloud มาใช้ โดยมี Accenture เป็นที่ปรึกษาและนำเอาข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนของซัปพลายเออร์ เพื่อทำให้ทางบริษัทสามารถทำงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการปฏิบัติการทั้งระบบ