xs
xsm
sm
md
lg

บาฟส์จับมือ ITURRI จากสเปนผลิตรถเติมน้ำมันอากาศยาน EV ในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บาฟส์ อินเทค” ในเครือ BAFS จับมือบริษัท ITURRI จากสเปน ผลิตรถเติมน้ำมันอากาศยานด้วยระบบไฟฟ้า (EV) ในไทย เล็งเจาะตลาดทั้งไทยและประเทศในอาเซียน คาดผลิตรถ EV ได้ในปี 2566 รองรับธุรกิจการบินฟื้นตัวและช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

วันนี้ (21 มี.ค.) บริษัท บาฟส์ อินเทค ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) หรือบาฟส์ ได้ลงนามในสัญญาร่วมมือกับบริษัท ITURRI ผู้นำการผลิตรถเติมน้ำมันอากาศยานระดับโลกจากประเทศสเปน ในการส่งชิ้นส่วนฯ มาประกอบรถเติมน้ำมันอากาศยานขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าประเภท EV DISPENSER ในไทย

หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BAFS) เปิดเผยว่า บริษัท บาฟส์ อินเทค ได้ทำข้อตกลงร่วมมือกับบริษัท ITURRI ในการผลิตรถเติมน้ำมันอากาศยานขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) โดยใช้นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสามารถวิ่งได้ในระยะทางรวมสูงสุด 170 กิโลเมตร และให้บริการเติมน้ำมันได้เฉลี่ย 8 เที่ยวบินต่อการชาร์จไฟฟ้าหนึ่งครั้ง ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีความเหมาะสมกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น


MR. Amadeo Douton Rodriguez กรรมการผู้จัดการ บริษัท ITURRI จํากัด กล่าวว่า การจับมือพันธมิตรในไทยกับบาฟส์ อินเทค เพื่อร่วมกันดำเนินการพัฒนาร่วมกับแผนกวิจัยและพัฒนาของ ITURRI Group ซึ่งจะนำร่องด้วยเครื่องจ่ายไฟฟ้า ตามด้วยเครื่องเติมเชื้อเพลิงไฟฟ้าและโซลูชันอัจฉริยะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ก๊าซไฮโดรเจน เนื่องด้วยศักยภาพของบาฟส์ กรุ๊ปที่มีประสบการณ์ในธุรกิจการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานมาอย่างยาวนาน

โดยมีเป้าหมายในปี ค.ศ. 2025 ของ ITURRI Group คือต้องการผลักดันยอดก่อนส่งออกให้ได้ 70% ของการผลิตในต่างประเทศ เพื่อบรรลุยอดการซื้อขายที่ตั้งเป้าไว้มูลค่า 500 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นสองเท่าตัวในปัจจุบัน


ด้านนายอนิรุทธ์ บุนยตีรณะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บาฟส์ อินเทค จำกัด กล่าวว่า ภายหลังการลงนามสัญญาดังกล่าว ทาง ITURRI จะถ่ายทอดเทคโนโลยี และจัดส่งชิ้นส่วนฯ เพื่อมาให้บริษัทดำเนินการประกอบรถ EV DISPENSER เพื่อทำตลาดในไทยและอาเซียน โดยมั่นใจว่าราคารถอีวีที่ประกอบในไทยจะมีราคาต่ำกว่าการนำเข้าทั้งคัน เนื่องจากไม่เสียภาษีนำเข้า 40% และจะมีการนำชิ้นส่วนอะไหล่บางส่วนที่ผลิตในไทยมาใช้แทนการนำเข้า ซึ่งรายละเอียดนี้จะต้องมีการหารือกับทาง ITURRI ว่าชิ้นส่วนบางตัวจะสามารถใช้ทดแทนกันได้ไหม

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตรถ EV DISPENSER ในช่วงไตรมาส 4/2565 และแล้วเสร็จในปี 2566 ควบคู่กับการทำตลาดหาลูกค้าในภูมิภาคโดยมี ITURRI ให้การซัปพอร์ตด้วย โดยรถเติมน้ำมันอากาศยานระบบไฟฟ้าที่จะผลิตนี้จะมีอัตราการไหลของน้ำมันอยู่ที่ 3,400-3,500 ลิตร/นาที เหมาะสำหรับใช้ในสนามบินนานาชาติ

“บาฟส์ได้วางเป้าหมาย 5 ปีข้างหน้า โครงสร้างรายได้จะมาจากธุรกิจหลักจากการเติมน้ำมันอากาศยาน 50% ที่เหลือจะเป็นรายได้ของบริษัทย่อยในเครือที่มาจากธุรกิจสาธารณูปโภคที่มีระบบท่อส่งน้ำมันที่ใหญ่สุดในอาเซียน มีกำลังการส่งอยู่ที่ 9,000 ล้านลิตรต่อปี และพลังงานหมุนเวียนรวม 50%” หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ กล่าว

ทั้งนี้ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายธุรกิจการบินน่าจะกลับมาสู่ระดับปกติได้ในปี ค.ศ. 2024 โดยมีผู้โดยสารทั่วโลกใช้บริการประมาณ 4,000 ล้านคนต่อปี และจะค่อยๆปรับตัวขึ้นจนถึงระดับ 8,000 ล้านคนต่อปีในปี ค.ศ. 2040

สำหรับ ITURRI Group จากประเทศสเปน มุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ สำหรับยานยนต์ไร้มลพิษเพื่อเป็นการรองรับกฎระเบียบและข้อบังคับที่กำหนดขึ้นใหม่โดย ICA0 สำหรับการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนฟุตพรินต์ และเสียงรบกวนในบริเวณสนามบินทั้งในและต่างประเทศ

ส่วนบาฟส์ อินเทค เป็นบริษัทที่บาฟส์ถือหุ้น 90% และบริษัท ยูนิเวฟ อีก 10% เพื่อดำเนินธุรกิจประกอบรถเติมน้ำมันอากาศยานให้ทางบริษัทแม่อย่างบาฟส์แล้ว ยังมีการผลิตรถให้แก่ลูกค้าในไทยรายอื่นๆ รวมถึงลูกค้าในต่างประเทศ ทั้งลาว เมียนมา


กำลังโหลดความคิดเห็น