ปราจีนบุรี - เกิดเหตุท่อน้ำเสียโรงงานในเขตนิคมฯ 304 ปราจีนบุรี แตก ทำน้ำเสียจำนวนมากไหลลงคลองธรรมชาติบ้านบุยายใบ ส่งผลปลาน็อกน้ำลอยตายจำนวนมาก หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไขกันไม่ให้ไหลลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรี
วันนี้ (6 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบุยายใบ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมาได้เกิดเหตุน้ำเสียซึ่งถูกปล่อยจากโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม 304 ไหลลงคลองธรรมชาติ จนทำให้ปลาจำนวนมากพากันลอยตาย หลังรับแจ้งจึงเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมด้วย นายโยธิน พงษ์อ้อ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม และผู้นำชุมชนในพื้นที่
พบน้ำในคลองรั้ง ซึ่งเป็นคลองธรรมชาติอยู่ภายในเขตนิคมอุตสาหกรรม 304 มีสภาพสีดำเข้ม และยังมีกากคล้ายของเสียลอยอยู่เหนือผิวน้ำเป็นจำนวนมาก เบื้องต้น หน่วยงานที่ลงพื้นที่ตรวจสอบได้ช่วยกันใช้เรือพายเก็บกากของเสียที่ไหลมากับน้ำใส่ถุงดำเพื่อนำไปตรวจสอบ
นอกจากนั้น ยังพบว่าบริเวณกำแพงซึ่งเป็นท่อส่งน้ำเสียของโรงงานแห่งหนึ่งมีร่องรอยน้ำสีดำกระจายทั่วบริเวณ โดยมีเจ้าหน้าที่โรงงานกำลังเร่งทำการซ่อมแซมท่อส่งน้ำเสียที่แตก และจากการตรวจสอบทราบว่าท่อน้ำเสียที่แตกเป็นท่อส่งน้ำมันยางดำของโรงไฟฟ้าเนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 จำกัด ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ทำการปิดท่อน้ำเสียดังกล่าวและเร่งแก้ไขไม่ให้น้ำเสียไหลลงคลองธรรมชาติ
รวมทั้งยังได้นำรถแบ็กโฮขุดดินกั้นน้ำเสียประกอบด้วย คลองติดบริษัท ไดเซล จุดเหนือสถานีสูบน้ำ และใต้สะพานคลองชลองแวง
ขณะที่ นายอุทิศ ไพเราะ อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม เผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้พยายามบล็อกจุดที่มีน้ำเสียไหลออกจากโรงงานแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเสียไหลลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรี ที่มีระยะทางอยู่ห่างหลายกิโลเมตร แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ ปลาในคลองรั้ง ลอยตายเป็นจำนวนมาก
เนื่องจากน้ำเสียที่ไหลลงคลองมีสารแบล็กซิสเตอร์ น้ำมันยางดำ หรือสารฟอกขาว เมื่อไหลลงมาผสมกับน้ำจะทำให้น้ำเสียในทันที
นายโยธิน พงษ์อ้อ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม เผยว่า ได้รับการชี้แจงจากโรงงานซึ่งเป็นแหล่งที่มาของน้ำเสียว่า บริษัทได้ทำการบล็อกน้ำเพื่อไม่ให้รั่วไหลลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรี และปิดท่อน้ำเสียที่รั่วไว้แล้ว และจะเร่งทำการดูดน้ำกลับเข้าไปที่บ่อบำบัดน้ำเสีย
“ส่วนแนวทางการป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำในระยะยาวนั้น อบต.จะได้เรียกบริษัทแห่งนี้เข้าพูดคุยเพื่อหาแนวทางแก้ไข ซึ่งหลังเกิดเหตุยังไม่มีเจ้าหน้าที่จากอุตสาหกรรมจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด” นายก อบต.ท่าตูม กล่าว
