xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ชูสนามบินเบตงประตูสู่โอกาสการค้าท่องเที่ยว พัฒนาพื้นที่ทุกมิติ เชื่อมาเยือนจะประทับใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ ยกเป็นวันประวัติศาสตร์เปิดสนามบินนานาชาติเบตง เป็นประตูสู่โอกาส ส่วนหนึ่งโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จชต. พัฒนาพื้นที่ทุกมิติ เชื่อมการค้าท่องเที่ยว ชู ยะลาโดดเด่นหลายด้าน เชิญมาเยือนเชื่อประทับใจ

วันนี้ (14 มี.ค.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ระบุถึงสนามบินเบตง มีเนื้อหาดังนี้ พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ ผมมีเรื่องที่น่ายินดี และถือว่าเป็นอีกวันหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตของรัฐบาลที่ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่ง คือ สนามบินนานาชาติเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะเป็นโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง รวมทั้งส่งเสริมให้มีการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวบ้านและกระจายความเจริญในพื้นที่ได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึง โดยเฉพาะบทบาทของอำเภอเบตง ที่เป็นทั้งด่านชายแดนทางบก เชื่อมโยงการเดินทาง การค้า และการท่องเที่ยว จากฝั่งประเทศไทยกับมาเลเซียและสิงคโปร์ เชื่อมทุกภูมิภาคของประเทศ และนานาชาติในอนาคตอีกด้วย

โดยในระดับจังหวัดนั้น จังหวัดยะลา ถือว่ามีความโดดเด่นในหลายๆ ด้าน อาทิ
(1) การท่องเที่ยวธรรมชาติ-เชิงเกษตรที่สวยงาม ได้แก่ ทะเลสาบและป่าฮาลาบาลา และป่าดิบชื้นที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ สำหรับอุโมงค์ใหญ่ “ต้าสวุ่ยต้อ” ป่าสงวนแห่งชาติป่าเบตง กำลังจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ต่อไป รวมทั้ง Sky Walk ตำบลอัยเยอร์เวง ซึ่งถือว่ายาวที่สุดในอาเซียน
(2) ประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมอันลุ่มลึก ถือว่ามีอัตลักษณ์แห่งวิถีชีวิต เป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันมาอย่างยาวนาน
(3) ด้านอาหารการกินที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ อาหารฮาลาล และพืช-ผลไม้พื้นบ้าน เช่น ทุเรียน ลองกอง ส้มโชกุน ไก่เบตง ปลาพลวงชมพู ปลานิลสายน้ำไหล และกล้วยฉาบ/กล้วยหินฉาบ (CRISPY SABA) ที่มีการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (สินค้า GI) ของยะลา
(4) ด้านอุตสาหกรรมที่โดดเด่น ทั้งอุตสาหกรรมอาหาร ยาง-ผลิตภัณฑ์ยาง และการแปรรูป-ผลิตภัณฑ์จากไม้-เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
ซึ่งวันนี้จะเป็นก้าวสำคัญของคนในพื้นที่ที่จะได้รับการพัฒนา จากภายในสู่ภายนอกพื้นที่ (From Local to Global) อย่างสมบูรณ์ เสริมด้วยการค้า-การลงทุนแบบออนไลน์ ก็จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการค้า การลงทุน การจ้างแรงงาน การสร้างอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นตามมา ด้วยความพร้อมด้านการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ที่รัฐบาลได้สนับสนุนให้เกิดขึ้นโดยลำดับ

สำหรับในระดับประเทศแล้ว ปัจจุบันสนามบินเบตงนี้ จะมีเที่ยวบินเชื่อมโยงกับสนามบินนานาชาติดอนเมือง และมีศักยภาพที่จะให้บริการตามมาตรฐานสากล เพื่อมุ่งสู่การเป็น “ศูนย์กลางการบินของภูมิภาค” (Regional Hub) เชื่อมโยงเส้นทางระหว่างประเทศได้ ในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดแนวทางการพัฒนาที่สำคัญๆ ไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยจะมีการบูรณาการกัน ทั้งการขนส่งทางบกและทางอากาศ ในเรื่องต่างๆ ซึ่งรวมถึง
(1) การพัฒนาบริการขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และได้มาตรฐานสากล
(2) การพัฒนาด่านศุลกากรชายแดน ศูนย์เศรษฐกิจชายแดน และการอำนวยความสะดวกผ่านแดนที่รวดเร็ว
(3) การผลักดันการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้เกิดระบบขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ สามารถรองรับการค้า การลงทุนที่จะสูงขึ้น
ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ในกรอบของประชาคมอาเซียนเท่านั้น แต่จะรองรับแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) อีกด้วย

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จึงเห็นได้ว่า “สนามบินเบตง” ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ “สนามบิน” แต่เป็นเสมือน “ประตูสู่โอกาส” ที่จะเปิดกว้างสู่ความเจริญ ทั้งสำหรับชาวยะลา และสำหรับชาวไทยทั้งประเทศ โดยจะเป็นอีกหนึ่งเมืองต้นแบบของจังหวัดชายแดนใต้ ที่รัฐบาลจะผลักดันและต่อยอดศักยภาพ ทั้งการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในพื้นที่ ที่ก้าวไปพร้อมกับการเผยแพร่และสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ผมจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ลองมาเยือนอำเภอเบตง ที่ผมเชื่อมั่นว่าจะได้รับความประทับใจกลับไปเช่นเดียวกับผมครับ












กำลังโหลดความคิดเห็น