xs
xsm
sm
md
lg

ส.อ.ท.เกาะติด”โอมิครอน”ผวาฉุดศก.ไทยปี’65ฟื้นช้าหวังระบบสาธารณสุขไทยรับมือได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ส.อ.ท.”เกาะติดการระบาด”โอมิครอน”ใกล้ชิดหวั่นฉุดเศรษฐกิจโลกและไทยฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ หวังรัฐบาลไทยมีประสบการณ์ล็อกดาวน์เฉพาะจุดหรือพื้นที่ ไม่จำกัดการเดินทางหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจแบบวงกว้างหรือล์อกดาวน์100% หนุนใช้สมุทรสาครโมเดล มองหากระบาดไม่เกิน 3 หมื่นคนต่อวันเชื่อระบบสาธารณสุขไทยยังรับมือไหวแต่หากเกินอาจต้องมีมาตรการดูแล

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)
เปิดเผยว่า ขณะนี้ส.อ.ท.ได้เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังจะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ซึ่งกังวลว่าหลายๆ ประเทศจะใช้มาตรการล็อคดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด จนอาจจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่อาจจะฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดไว้ แต่สำหรับรัฐบาลไทยแล้วยังเชื่อมั่นว่าจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อจำกัดการเดินทางหรือกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจแบบวงกว้าง 100% แต่เห็นด้วยที่รัฐใช้เป็นรูปแบบเฉพาะจุดที่มีการระบาดหนักและควบคุมสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาด เช่น ผับ บาร์ เป็นต้น

“ รัฐบาลไทยมีประสบการณ์ในการรับมือกับโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ในช่วงการแพร่ระบาดตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้รอบนี้เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อจำกัดการเดินทางหรือกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจแบบในวงกว้างทั้งหมด 100% อย่างแน่นอนแต่จะเน้นควบคุมเฉพาะจุดที่มีการระบาดของโอมิครอนที่จะส่งผลดีมากกว่า โดยการและ หากเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้เรื่อยๆ แม้ว่าจะฟื้นตัวล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ ภาคเอกชนไม่เห็นด้วยถ้าจะล็อกดาวน์ทั้งประเทศ แต่รับได้ถ้าใช้สมุทรสาครโมเดลในการควบคุมการแพร่ระบาดเป็นจุดๆ เน้นที่มีการระบาดสูง”นายเกรียงไกรกล่าว

ทั้งนี้ส.อ.ท.ประเมินว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโอมิครอนมี 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 ผู้ติดเชื้อโอมิครอนไม่ถึง 10,000 คนต่อวัน ระดับที่ 2 คือผู้ติดเชื้อโอมิครอน 15,000-30,000 คนต่อวัน และระดับที่ 3 คือมีผู้ติดเชื้อสูงกว่า 30,000 คนต่อวัน ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ผ่านๆมาในไทยด้วยศักยภาพระบบสาธารณสุขไทยยังอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นกังวลและมั่นใจว่าระบบสาธารณสุขของไทยสามารถรับมือได้ ถ้ายังอยู่ในระดับ 1 และ 2 แต่หากตัวเลขขยับมาที่มากกว่า 30,000 คนต่อวันจะกลายเป็น worse- case scenario อาจจะต้องใช้มาตรการหนักเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

อย่างไรก็ตาม โอมิครอนจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ อาจทำให้การฟื้นตัวต่อจากนี้ไปได้รับผลกระทบและต้องล่าช้าออกไป โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและบริการ ธุรกิจห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ที่เพิ่งเริ่มรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังการเปิดประเทศเมื่อ 1 พ.ย.ดังนั้น จำเป็นต้องจับตาปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงและความรวดเร็วของการแพร่ระบาดซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในระยะนี้

“ ส.อ.ท. ยังอยู่ระหว่างการเฝ้าติดตามมาตรการทำงานที่บ้านหรือ Work from home ของรัฐบาลที่ประกาศให้หน่วยงานราชการใช้มาตรการนี้ 14 วันส่วนภาคเอกชนเป็นการขอความร่วมมือ แต่หลายบริษัทก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการให้พนักงาน work from home เพื่อลดการแพร่เชื้อหลังจากกลับจากฉลอง เดินทางทองเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่  ”นายเกรียงไกรกล่าวย้ำ
กำลังโหลดความคิดเห็น