กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยผักและผลไม้ไทยครองส่วนแบ่งตลาดในจีนเป็นอันดับหนึ่ง มีสัดส่วนสูงถึง 45% ส่วนส่งออก 11 เดือนปี 64 มีมูลค่า 6,013.03 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 81% ระบุ “มันสำปะหลัง” นำโด่งส่งออกผัก “ทุเรียน” อันดับหนึ่งส่งออกผลไม้ ชี้ FTA เป็นเครื่องมือสำคัญทำสินค้าไทยได้เปรียบ แนะผู้ส่งออกคุมเข้มคุณภาพ มาตรฐาน และปฏิบัติตามกฎระเบียบของจีน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถิติการค้าสินค้าผักและผลไม้ไทยของไทยในตลาดจีน พบว่าในช่วง 10 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ต.ค.) จีนมีการนำเข้าผักและผลไม้จากไทยสูงเป็นอันดับหนึ่ง โดยไทยครองส่วนแบ่งตลาดผักและผลไม้สูงถึง 45% ของการนำเข้าทั้งหมดของจีน ส่วนชิลีเป็นอันดับ 2 มีส่วนแบ่ง 14.01% และเวียดนามอันดับ 3 มีส่วนแบ่ง 6.45% แคนาดา อันดับ 4 มีส่วนแบ่ง 4.14% และนิวซีแลนด์อันดับ 5 มีส่วนแบ่ง 3.75%
ทั้งนี้ ส่วนแบ่งตลาดผักและผลไม้ของไทยในจีนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับสถิติการส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้น โดยตัวเลขล่าสุด 11 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-พ.ย.) ทำได้มูลค่า 6,013.03 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 81% แบ่งเป็นส่งออกผักมูลค่า 1,199.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 96% โดยมันสำปะหลังส่งออกอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ พริกสดและแช่เย็น และถั่วเขียวและถั่วทองแห้ง และส่งออกผลไม้ มูลค่า 4,813.32 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 78% โดยทุเรียนส่งออกอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ มังคุดสด และลำไยสด ส่วนการนำเข้าจากจีนมูลค่า 832.04 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.2% เกินดุลการค้า 5,180.99 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 105% สินค้าผัก เช่น เห็ดแห้ง แครอทสด แช่เย็น กะหล่ำปลีสด แช่เย็น และผลไม้เมืองหนาว เช่น แอปเปิล องุ่นสด ลูกแพร์ และส้ม เป็นต้น
นางอรมนกล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ผักและผลไม้ไทยครองส่วนแบ่งในตลาดจีนได้เป็นอันดับหนึ่ง นอกเหนือจากความนิยมในผักและผลไม้ของไทย ความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานยังได้เครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความได้เปรียบและขยายโอกาสทางการค้า คือ ความตกลงการค้าเสรีระหว่างอาเซียนกับจีน (ACFTA) เพราะจีนได้ยกเลิกเก็บภาษีนำเข้าผักและผลไม้จากไทยทุกรายการตั้งแต่ปี 2546 จากเดิมเคยเก็บภาษี 10-30% ส่งผลให้การส่งออกเติบโตอย่างมาก โดยก่อนที่จะมี FTA ปี 2545 ไทยส่งออกไปจีนเพียง 136.53 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ปี 2563 ส่งออกมูลค่า 3,614.52 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2,547% เมื่อเทียบกับปี 2545
สำหรับการส่งออกไปจีน จะต้องให้ความสำคัญต่อการควบคุมคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยของผู้บริโภค มีใบรับรองสุขอนามัยพืช ไม่มียาฆ่าแมลงและสารเคมีตกค้าง และต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของจีน โดยล่าสุดได้กำหนดให้ผู้ผลิตอาหารจากต่างประเทศใน 18 กลุ่มสินค้า รวมถึงผลไม้แห้ง ผักสดและผักอบแห้ง ต้องขึ้นทะเบียนต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบก่อนส่งไปจีน ส่วนผู้ผลิตและส่งออกที่ไม่อยู่ใน 18 กลุ่มสินค้า สามารถขึ้นทะเบียนโดยตรงต่อสำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน หรือ GACC มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565