“จุรินทร์”เห็นชอบแผนการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ของไทยกับคู่เจรจา 10 ประเทศ ที่จะเริ่มตั้งแต่ปลายปี 64 จนถึงปี 65 เพื่อขับเคลื่อนการค้า แก้ปัญหาอุปสรรค และเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เผยไทยยังจะเข้าร่วมประชุมที่คู่เจรจาเป็นเจ้าภาพกับจีนและบังคลาเทศด้วย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ความเห็นชอบแผนการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee : JTC) ระดับรัฐมนตรี กับประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ประจำปี 2565 แล้ว และได้มอบให้กรมฯ เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุม JTC กับคู่ค้าสำคัญ กว่า 10 ประเทศ ทั้งในรูปแบบออนไลน์และรูปแบบปกติ เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนการค้า การแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้า และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
โดยตามกำหนดการ จะมีการประชุม JTC ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 เริ่มจากการประชุม JTC ไทย-อินโดนีเซีย เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน JTC ไทย-ภูฏาน เพื่อหารือความร่วมมือในสาขาท่องเที่ยว เกษตร หัตถกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือบก และจากนั้นจะเป็นการ JTC กับมัลดีฟส์ สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ กัมพูชา เกาหลีใต้ เวียดนาม รัสเซีย และยูเครน เพื่อหารือขยายการค้า การลงทุน ส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ เช่น นวัตกรรมและเทคโนโลยี เกษตร อาหาร ประมง การลงทุน การค้าดิจิทัล และการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ไทยจะเข้าร่วมการประชุม JTC ที่ประเทศคู่ค้าเป็นเจ้าภาพ ทั้งการประชุมคณะอนุกรรมาธิการว่าด้วยการค้าและการลงทุนไทย-จีน เพื่อหารือเรื่องการเปิดด่านท่าเรือกวนเหล่ย การขยายการนำเข้า-ส่งออกสินค้า การแก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางการค้าเกี่ยวกับมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช การประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (การประชุม JC เศรษฐกิจ ระดับรองนายกรัฐมนตรี) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ความเชื่อมโยงด้านดิจิทัล ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี และการประชุม JTC ไทย-บังกลาเทศ เพื่อหารือความร่วมมือในสาขาเกษตร ประมง บริการสุขภาพ ปศุสัตว์ และความเป็นไปได้ในการจัดทำ FTA เป็นต้น
“การประชุม JTC ที่จะเกิดขึ้น ถือเป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้หารือกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศคู่ค้า รวมถึงได้หาแนวทางส่งเสริมการค้าและการลงทุน การอำนวยความสะดวกทางการค้าและแก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสขยายตลาดและสร้างแต้มต่อให้กับสินค้าส่งออกของไทยในต่างประเทศได้มากขึ้น”นางอรมนกล่าว