xs
xsm
sm
md
lg

CREALOGIX มุ่งพัฒนาให้บริการธนาคารบนช่องทางดิจิทัล ดึง AI ปรับใช้เพื่อนำเสนอบริการที่ตรงใจลูกค้าได้อย่างชาญฉลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คาร์สเทิน เคมนา กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ CREALOGIX
CREALOGIX บริษัทเทคโนโลยีทางการเงินจัดอันดับในกลุ่ม Fintech 100 จากสวิตเซอร์แลนด์ มุ่งพัฒนาให้บริการธนาคารบนช่องทางดิจิทัล ลูกค้าสามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย ครอบคลุม และเป็นส่วนตัว นำปัญญาประดิษฐ์ มาปรับใช้เพื่อนำเสนอบริการที่ตรงใจลูกค้าได้อย่างชาญฉลาด พร้อมเตรียมขยายฐานลูกค้าสู่ประเทศไทย เอเชียแปซิฟิก และตะวันออกกลาง

วันนี้ (29 พ.ย.) คาร์สเทิน เคมนา กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ CREALOGIX กล่าวว่า การที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง CREALOGIX Asia-Pacific เมื่อเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา โดยรับผิดชอบในส่วนของการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ให้กับ CREALOGIX เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างสอดคล้องกับตลาดทั่วโลกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยที่ก่อนร่วมงานกับ CREALOGIX นั้น ได้ทุ่มเทเวลาให้กับงานในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน รวมถึงเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญให้แก่ผู้จัดหาบริการโซลูชันการจัดการความมั่งคั่งและการธนาคารรายย่อย ผ่านความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ซอฟต์แวร์และการบริการ

“ช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อันทรงคุณค่าจากการทำงานร่วมกับธนาคารในภูมิภาคเอเชียหลายแห่ง ร่วมมือริเริ่มและผลักดันวาระด้านนวัตกรรม และเมื่อไม่นานมานี้ได้ให้ความสำคัญกับด้านดิจิทัลอย่างชัดเจน ด้วยประสบการณ์การทำงานอันยาวนานในการช่วยยกระดับการให้ข้อเสนอผ่านช่องทางดิจิทัลให้กับธนาคารและสถาบันการเงิน”

ทั้งนี้ CREALOGIX เป็นหนึ่งในบริษัทฟินเทค (Fintech - Financial Technology) หรือ เทคโนโลยีทางการเงิน ซึ่งได้รับการจัดอันดับในกลุ่ม Fintech 100 ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า ลดความซับซ้อนของ Customer Journey ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย ครอบคลุม และเป็นส่วนตัว

โดยที่ CREALOGIX มุ่งพัฒนาและดำเนินการให้บริการด้านนวัตกรรมฟินเทคให้แก่ธุรกิจธนาคาร, สถาบันทางการเงิน, ผู้บริหารสินทรัพย์ และการลงทุน, ธุรกิจประกันภัย รวมทั้งมุ่งพัฒนาการให้บริการของธนาคารและให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้า ในยุค Digitalization ด้วยวิธีที่ปลอดภัย ครอบคลุม และเป็นส่วนตัว ซึ่งตอนนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถละเลยได้

ในปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกของการบริหารความมั่งคั่ง คนรุ่นมิลเลนเนียลในปัจจุบันที่ล้วนให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีระดับสูงและการพูดคุยแบบ Ad-hoc มากกว่าการใช้อีเมล โทรศัพท์ หรือการประชุมรูปแบบเดิมในการขอคำแนะนำและการสนับสนุนจากสถาบันการเงิน ทั้งนี้ยังต้องคำนึงถึงกลุ่มลูกค้าที่อาจจะต้องการและคาดหวังการบริการทางดิจิทัลที่แตกต่างกัน เช่น ลูกค้าในกลุ่ม Private Banking ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าคนสำคัญ ไปจนถึงลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูง หรือ เรียกว่า High-Net-Worth Individuals

“เป้าหมายของ CREALOGIX คือการเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล ที่สามารถปรับใช้ได้กับทุกระบบของธนาคาร เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า ใส่ใจในการออกแบบ ลดความซับซ้อนของ Customer Journey ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแบรนด์ได้อย่างใกล้ชิด”

ในปี 2564 นี้ CREALOGIX ได้ฉลองครบรอบ 25 ปี โดยในช่วงตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านดิจิทัลมามากกว่า 500 ราย ได้แก่ธุรกิจธนาคารชั้นนำของโลก ผู้บริหารสินทรัพย์และการลงทุน รวมถึงธุรกิจประกันภัย CREALOGIX เริ่มให้บริการธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ครั้งแรกแก่บริษัทหลักทรัพย์ เครดิต สวิส (Credit Suisse) ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ และให้บริการแก่กลุ่มธุรกิจการเงินในแถบยุโรปอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีการขยายฐานลูกค้ามายังแถบเอเชีย-แปซิฟิก และตะวันออกกลาง

1.ผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยีที่โดดเด่นของ CREALOGIX
ในเรื่องความเชี่ยวชาญทางด้านดิจิทัล ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ Open Ecosystem (โอเพน อีโคซิสเทม) โดยมีการร่วมมือกับผู้ให้บริการเสริมหรือ Third -party ต่าง ๆ เพื่อนำเสนอการให้บริการหรือฟังก์ชั่นใหม่ๆ ด้วยการเชื่อมโยงการบริการเข้าด้วยกันบนมาตรฐานของ Open Banking และเทคโนโลยี API พร้อมทั้งการให้บริการแบบไมโครเซอร์วิสอันทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง รวมถึงการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่ระดับโลก

สำหรับบริการที่โดดเด่นของ CREALOGIX คือ บริการ Digital Hub และ บริการ Conversational AI
2.1 บริการ Digital Hub (ดิจิตอลฮับ)
บริการ Digital Hub ของ CREALOGIX เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานโมดูลาร์ที่ผสานรวมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ของธุรกิจธนาคารด้วยเทคโนโลยี API ทำให้พวกเขาสามารถขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลและพร้อมปรับตัวไปกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว

ดิจิตอลฮับ บริการที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้แก่สถาบันการเงินด้วยการดำเนินงาน Open Architecture (เปิดโอกาสสร้างความมั่งคั่งอย่างมั่นคง) และวางรากฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน โดยจุดแข็งของบริการดิจิตอลฮับ ของ CREALOGIX คือ ความสามารถในการส่งมอบประสบการณ์ให้ลูกค้าด้วยบริการที่ผสานหลายช่องทางเข้าด้วยกัน ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ปลายทางของลูกค้า ใส่ใจความสม่ำเสมอและคุณภาพในประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า

2.2 บริการ Conversational AI
บริการ Conversational AI ช่วยในการเสริมศักยภาพในการสื่อสารของธนาคารด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมเข้ากับระบบอัตโนมัติ (Automation) ช่วยให้ธนาคารสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในทุก ๆ ช่องทาง ให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง ไร้ที่ติ ด้วยระบบไฮบริดและมอบประสบการณ์ที่มีความเป็นส่วนตัวระดับสูงให้แก่ผู้ใช้

นอกจากนี้บริการ Conversational AI ของ CREALOGIX ช่วยให้องค์กรสามารถโต้ตอบกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ได้อย่างชาญฉลาด ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ด้วยกระบวนการอัตโนมัติที่ช่วยลดต้นทุน และช่วยเปิดแหล่งรายได้ใหม่ ในอนาคต กลุ่มธุรกิจธนาคารจะได้รับความท้าทายมากขึ้นในการนำเสนอบริการการสื่อสารแบบครบจบในที่เดียว (end-to-end) ให้กับลูกค้า กลุ่มธุรกิจธนาคารจะต้องมีการปรับปรุงการให้บริการเพื่อรองรับประสบการณ์ของผู้ใช้ยุคดิจิทัลให้ดียิ่งขึ้น

ซึ่งการมีแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญในการส่งมอบบริการไปสู่ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ในการช่วยสื่อสารข้อความประเภทที่มีลักษณะเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เป็นกิจวัตร หรือ ช่วยสื่อสารชุดข้อความอย่างรวดเร็ว ซ้ำยังช่วยลดค่าใช้จ่าย ในขณะที่กลุ่มธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น การให้บริการทั้งหมดเหล่านี้ภายในแพลตฟอร์มเดียว จะช่วยสร้างความสะดวกให้แก่ลูกค้า และสามารถส่งมอบประสบการณ์ความต่อเนื่อง อย่างไร้ที่ติ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าเกิดความภักดีในธุรกิจและช่วยพิสูจน์ให้เห็นถึงความแตกต่างที่ทรงพลังในตลาด

3.การลงทุนและการขยายตัวในประเทศไทย
CREALOGIX ได้ขยับขยายการให้บริการมายังแถบเอเชีย-แปซิฟิกเมื่อ ปี 2557 โดยช่วงแรกฐานลูกค้าหลักของ CREALOGIX จะประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์และฮ่องกงเป็นหลัก ก่อนจะเริ่มขยับขยายเข้าตีตลาดประเทศไทยเมื่อต้นปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่ง CREALOGIX พร้อมเตรียมการและวางแผนที่จะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้เขามองว่า อุตสาหกรรมการเงินของประเทศไทยมีความพร้อมที่จะตอบรับบริการธนาคารดิจิทัลอย่างสมบูรณ์เนื่องจากระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยในประเทศ เทคโนโลยีดิจิทัลส่งผลให้สภาพแวดล้อมทางการเงินของประเทศเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีขอบเขตสำหรับการพัฒนาเพิ่มเติม เนื่องจากธนาคารต่าง ๆ ได้เพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยี ใช้บุคลากรด้านไอทีมากขึ้น และเปิดตัวบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ความคิดริเริ่มเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะนำองค์กรไปสู่ยุคการเงินดิจิทัลอย่างสมบูรณ์

สำหรับทางด้านสถานการณ์โควิด เขามองว่า โควิด-19 ได้มีส่วนกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมของผู้บริโภค และปรับรูปแบบการให้บริการของธุรกิจไปสู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีผลกระทบความต้องการจากผู้คนชนชั้นกลางทางสังคม ที่มองหาการทำธุรกรรมผ่านธุรกรรมผ่านทางออนไลน์มากขึ้น และท้ายที่สุดคือการมุ่งมั่นที่จะเข้าถึงกลุ่มคนในทุก ๆ พื้นที่ ขับเคลื่อนการทำธุรกรรมให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งทาง CREALOGIX เองก็ได้มีการให้บริการสนับสนุนด้านนี้ด้วย และมองเห็นโอกาสในการบริการให้แก่กลุ่ม เอสเอ็มอีอีกด้วย

สำหรับกลยุทธ์ในประเทศไทย ทาง CREALOGIX เล็งเห็นความสำคัญของ Customer Journey และมุ่งมั่นที่จะมอบการบริการที่จะช่วยสร้างความสะดวกให้แก่ลูกค้า และสามารถส่งมอบประสบการณ์ความต่อเนื่อง ไร้ที่ติ ด้วยการให้บริการทางด้าน Front-end แบบครบวงจรที่ยึดความต้องการและประสบการณ์ในการใช้บริการธนาคารดิจิทัลของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง นอกจาก CREALOGIX จะเป็นผู้ให้บริการแล้ว CREALOGIX ยังเป็นทั้งที่ปรึกษา คอยให้ความใส่ใจลูกค้า ไม่ละทิ้งลูกค้าในทุก ๆ การให้บริการ

ด้วยความเชื่อมั่น และความไว้วางใจในเรื่องความเชี่ยวชาญทางด้านดิจิทัล จาก 500 กว่าธนาคารชั้นนำทั่วโลก เราเชื่อมั่นว่าเราสามารถออกแบบการบริการดิจิทัลเพื่อมอบประสบการณ์ที่ตรงใจลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุก ๆ ช่องทาง ทำให้ CREALOGIX จะยังคงมุ่งขยายสร้างฐานลูกค้าและพันธมิตรในประเทศไทยและในภูมิภาคต่อไป นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดเผยข้อเสนอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของสถาบันการเงินรายใหญ่ในประเทศไทย

รวมถึงการร่วมมือกับเหล่าธนาคารพันธมิตรในกันผลักดันให้ธนาคารเกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ให้การนำเสนอรูปแบบการให้บริการพร้อมกับเครื่องมือการให้คำปรึกษาใหม่ ๆ ที่สามารถช่วยให้กลุ่มธุรกิจธนาคารสามารถดำเนินการให้บริการทางการเงินผ่านระบบดิจิทัล ด้วยการสนับสนุนจากระบบคลาวด์ของเหล่าพันธมิตรเพื่อช่วยให้แน่ใจว่านวัตกรรมเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถผสานรวมธนาคารให้สามารถเข้าสู่ระบบดิจิทัลได้ตลอดเวลา และก้าวทันความต้องการทางด้านดิจิทัลของลูกค้า

สำหรับเป้าหมายของ CREALOGIX ในส่วนการบริหารความมั่งคั่ง คือ การยกระดับการให้บริการของผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ RM (Relationship Manager) เพื่อให้สามารถให้คำแนะนำที่ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์แก่ลูกค้ามากขึ้น รวมไปถึงการยกระดับความพึงพอใจในการรับบริการของลูกค้าที่เป็น End User ทั้งทางดิจิทัลและจาก RM โดยตรง คุณคาร์สเทิน เคมนา ให้ความเห็นว่า การทำธุรกรรมในแถบเอเชียนั้น ได้ก้าวไปสู่ยุคการให้บริการทางโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก แต่ผู้คนยังคงมีความจำเป็นต้องเดินทางไปทำธุรกรรมบางอย่างที่สาขา ซึ่งการเข้ามาของ CREALOGIX ในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการให้บริการแนะนำด้านการลงทุนและบริหารความมั่งคั่งแบบไฮบริด หรือที่เรียกว่า Hybrid Advisory เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ โดยการปรับรูปแบบการทำธุรกรรมให้สามารถทำได้ทั้งแบบออนไลน์ด้วยตนเอง ในขณะเดียวกันนั้น ลูกค้าก็ยังได้รับการดูแลและการบริการส่วนบุคคลจาก RM ที่ดีขึ้น

“ด้านการให้บริการธนาคารรายย่อย เรามีเป้าหมายที่จะช่วยให้สถาบันทางการเงินสามารถให้บริการทางธุรกรรมที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด โดยเฉพาะลูกค้าที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองใหญ่ๆ ให้สามารถเข้าถึงการบริการที่ครอบคลุม ปลอดภัยและง่ายต่อการใช้งาน โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทำธุรกรรมที่สาขา”

และในด้านการให้บริการแก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีความต้องการทางด้านสินเชื่อเพื่อธุรกิจและเงินทุนหมุนเวียน ทั้งยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ แต่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มักจะถูกละเลยและไม่ค่อยได้รับความสำคัญในจัดหาการบริการมารองรับความต้องการ ทำให้ CREALOGIX เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของลูกค้ากลุ่มนี้ และพร้อมที่จะช่วยพลิกโฉมการให้บริการทางด้านสินเชื่อทางดิจิทัลที่ง่ายดาย สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตและต่อยอดธุรกิจต่อไป

คาร์สเทิน ยังได้กล่าวถึง เทรนด์ที่สำคัญอย่างมากในการให้บริการที่เหนือระดับ นั่นก็คือ Hyper-personalization ซึ่งหมายถึง การตลาดที่เข้าถึงตัวบุคคลมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ตรงใจลูกค้ามากกว่าที่เคย โดยการใช้ Data เป็นหัวใจสำคัญ ลูกค้าในปัจจุบันมีความคาดหวังว่าผู้ให้บริการทางดิจิทัลมีความรู้ความเข้าใจในความต้องการส่วนบุคคลของลูกค้า หรือ KYC (Know Your Customer) เนื่องจากการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ทำให้สถาบันทางเงินสามารถพัฒนาการให้บริการที่สอดคล้องกันความต้องการส่วนบุคคลของลูกค้าได้ โดยไม่ต้องมีการเก็บข้อมูลซ้ำซ้อน หรือเรียกหาเอกสารเพิ่มเติมทุกครั้งที่มีการขอใช้บริการ

นี่เป็นจุดเด่นที่ CREALOGIX Conversational AI ที่ได้นำปัญญาประดิษฐ์ มาปรับใช้เพื่อนำเสนอบริการที่ตรงใจลูกค้าได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งยังช่วยให้สถาบันทางการเงินสามารถเพิ่มยอดขายและเสนอบริการที่มีเกี่ยวข้องหรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจให้แก่ลูกค้าอีกด้วย (Upselling and Cross-selling)


กำลังโหลดความคิดเห็น