“กบง.” เคาะปรับดีเซลเหลือเกรดเดียว บี 7 เป็นเวลา 4 เดือน (1 ธ.ค. 64-มี.ค. 65) คาดกดราคาดีเซลต่ำเหลือระดับ 28 บาทต่อลิตรได้ ยันหารือกับทุกภาคส่วนแล้ว จับตาประชุมโอเปกพลัส 4 ธ.ค.ชี้ชะตาสัญญาณราคาน้ำมัน
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน วันนี้ (24 พ.ย.) ว่า กบง.ได้พิจารณาแนวทางการดูแลผลกระทบจากระดับราคาน้ำมันตลาดโลกที่มีทิศทางผันผวนเพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน โดยได้นำข้อเสนอของกลุ่มรถบรรทุกมาพิจารณา โดยมีมติเห็นชอบปรับลดสัดส่วนการผสมน้ำมันไบโอดีเซล (บี 100) ในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากเดิมมีการผสมอยู่ 3 สัดส่วน คือ ร้อยละ 7 (บี 7) ร้อยละ 10 (บี 10) และร้อยละ 20 (บี 20) ให้มีสัดส่วนผสมเดียว คือ ร้อยละ 7 (บี 7) เป็นเวลา 4 เดือน (ธ.ค. 64-มี.ค. 65) ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ที่ราว 28 บาท/ลิตร พร้อมขอให้ผู้ค้าคงค่าการตลาดอยู่ที่ 1.40 บาทต่อลิตรโดยกรอบการตรึงราคาดีเซลจะยังไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร
“หลังจากนี้กรมธุรกิจพลังงานออกประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล พ.ศ. …. ใหม่ ที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซลร้อยละ 7 และให้กองทุนน้ำมันฯ ชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วให้สอดคล้องกับมาตรการบรรเทาผลกระทบฯ ซึ่งมาตรการดังกล่าวรวมกับค่าการตลาดไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตรจะทำให้ลดราคาดีเซลลงมาอยู่ระดับ 28 บาทต่อลิตรได้ และคาดว่าจะมีผลตั้งแต่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไปเป็นการชั่วคราวเนื่องจากเห็นว่าน้ำมันยังมีทิศทางผันผวนแต่นโยบายการตรึงราคาดีเซลจะยังคงอยู่ที่ระดับไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยสิ่งสำคัญคงจะต้องติดตามราคาตลาดโลกใกล้ชิดโดยเฉพาะการประชุมโอเปกพลัส 4 ธ.ค.นี้จะเป็นอย่างไร” นายวัฒนพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องลดส่วนผสมปาล์มลงมาก็เนื่องจากราคาปาล์มที่แพง ล่าสุดราคาบี 100 อยู่ที่ 46.88 บาท/ลิตร มีผลต่อราคาดีเซลราว 1-2 บาท/ลิตร การลดเหลือ บี 7 ก็จะมีผลต่อดีเซลเหลือ 50-80 สต./ลิตร และยังมีส่วนลดการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจาก 1.99 บาท/ลิตร ลดลงด้วย ทำให้เงินกองทุนน้ำมันอุดหนุนราคาน้ำมันลดลง 106 ล้านบาท/เดือน จาก 4,000 ล้านบาท เหลือประมาณ 3,886 ล้านบาท/เดือน โดยฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 24 พ.ย. 64 เหลือเงินสุทธิที่ 2,956 ล้านบาท แยกเป็น บัญชีน้ำมันเป็นบวกที่ 23,356 ล้านบาท เงินบัญชีก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี ติดลบ 20,400 ล้านบาท เป็นผลมาจากการดูแลราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนมาตั้งแต่ช่วงเริ่มโควิด-19 เดือน มี.ค. 63 และจะดูแลจนถึง ม.ค. 65 ด้วยการตรึงราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนที่ 318 บาทต่อถัง 15 กก.
“การลดส่วนผสมไบโอดีเซลได้หารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยจะหาทางอื่นๆ ที่จะช่วยเหลือเช่น การส่งเสริมการส่งออก ส่วนกรณีการดูแลแอลพีจีที่ใช้เงินมากนั้น ระยะต่อไปก็ต้องมาพิจารณาปรับราคาแอลพีจีบ้างเพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันฯ” นายวัฒนพงษ์กล่าว
