ม็อบรถบรรทุกและเครือข่ายยื่นหนังสือกระทรวงพลังงานแก้ไขน้ำมันแพงโดยการตรึงดีเซลไม่ให้เกิน 25 บาทต่อลิตรเป็นเวลา 1 ปี ขีดเส้นตาย 1 ธ.ค.นี้ หากไร้คำตอบเตรียมนำรถบรรทุกทั่วประเทศเติมน้ำมัน 20 ลิตรต่อคันวิ่งไปจนกว่าน้ำมันหมด หมดที่ไหนจอดทิ้งที่นั่น พร้อมขยับค่าขนส่งขึ้นทันที 10%
วันนี้ (16 พ.ย.) ม็อบรถบรรทุกและเครือข่ายได้เดินทางจากทั่วประเทศมายังกระทรวงพลังงานตามกิจกรรม "Truck Power Season II" ล้อมเมืองและผ่าเมืองเพื่อประชาชนคนใช้น้ำมันแพง พร้อมยื่นหนังสือข้อเรียกร้องให้กระทรวงพลังงาน โดยมี นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นผู้แทนรับมอบหนังสือในเวลา 13.00 น. ก่อนสลายตัวตอน 14.00 น.เพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือที่สภาฯ ต่อไป
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สหพันธ์ฯ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงพลังงาน โดยยังคงมีจุดยืนเดิมที่จะให้รัฐบาลได้พิจารณาตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 25 บาทต่อลิตรเป็นเวลา 1 ปีเพื่อลดผลกระทบจากน้ำมันแพง โดยการลดภาษีสรรพสามิต ควบคู่ไปกับการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาดูแล และถอดส่วนผสมน้ำมันปาล์มออกจากน้ำมันดีเซล ซึ่งเครือข่ายฯ จะให้เวลาถึง 1 ธันวาคม 2564 หากไม่ได้รับคำตอบจากกระทรวงฯ จะนำรถบรรทุกทั่วประเทศที่มีอยู่ 1.4 ล้านคันออกมาเติมน้ำมัน 20 ลิตรต่อคันวิ่งเข้าเมือง หากน้ำมันหมดจุดใดก็จะจอดยังจุดนั้น
“สหพันธ์ฯ และเครือข่ายจะนำรถบรรทุกมาเติมน้ำมัน 20 ลิตรต่อคันแล้ววิ่งไปจนกว่าน้ำมันหมด หมดตรงไหนก็จอดตรงนั้นทิ้งไว้ให้ไฟแนนซ์มายึดไปเอง เพราะทุกวันนี้ก็แทบจะไปต่อไม่ไหวแล้ว หรือถ้าจะให้วิ่งต่อก็ต้องหาน้ำมัน 25 บาทต่อลิตรมาเติมให้ ส่วนกรณีที่ไม่เคลื่อนขบวนไปกระทรวงการคลังเพราะเห็นว่ากระทรวงพลังงานตั้งขึ้นมาเพราะมาดูแลราคาพลังงานอยู่แล้ว ไม่ควรจะโยนเผือกไปให้คนอื่นรับผิดชอบ ถ้าทำไม่ได้ก็ควรยุบไปเลย” นายอภิชาติกล่าว
นอกจากนี้ ตามหนังสือที่ยื่นเสนอได้ชี้แจงถึงความจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าขนส่งในอัตรา 10% หรือมากกว่ามีผลตั้งแต่ 1 ธ.ค. 64 เป็นต้นไป เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ลดภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และลดการขาดทุนของผู้ประกอบการเพื่อให้อยู่รอดได้ในภาวการณ์วิกฤตต่างๆ ในปัจจุบันซึ่งจะมีผลกระทบต่อผู้ใช้บริการและพี่น้องประชาชนที่เป็นผู้บริโภค แต่ก็มีความจำเป็นเพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้นำเสนอทางเลือกให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงแต่ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด
นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะผู้แทนของกระทรวงพลังงานรับหนังสือ กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำหนังสือเสนอต่อ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เพื่อพิจารณาหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิจารณาหามาตรการหรือแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป
ส่วนข้อเรียกร้องที่ให้แยกน้ำมันไบโอดีเซล ซึ่งผลิตจากน้ำมันปาล์มออกจากน้ำมันดีเซลที่ปัจจุบันมีการจำหน่ายเป็น B7 B10 และ B20 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานที่มีคณะทำงานพิจารณาอยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องนี้ โดยพยายามอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเหลือซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา
“ยืนยันว่าที่ผ่านมากระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจ เข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการที่เกิดขึ้น โดยยังคงใช้กลไกจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรักษาเสถียรภาพราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งปัจจุบันได้มีการอุดหนุนราคาดีเซลแล้วเฉลี่ย 2 บาทต่อลิตรในขณะนี้” นายสมบูรณ์กล่าว
