นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี ว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ติดตามแนวโน้มราคาพลังงานโลกที่ผันผวน เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนและผู้ประกอบการให้มากที่สุด โดยรัฐบาลยังมีนโยบายตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาท ขณะที่การบริโภคน้ำมันของตลาดใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา ยังมีความต้องการใช้สูง ซึ่งในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ องค์กรร่วมประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก หรือ โอเปก จะมีการประชุมเพื่อทบทวนปริมาณการผลิต ซึ่งต้องติดตามผลการประชุมอย่างใกล้ชิด
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้หลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่นและอินเดีย ได้นำน้ำมันสำรองมาใช้จนมีผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก แม้ราคาน้ำมันในประเทศไทยจะเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นและปรับลดลง โดยในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) กลุ่ม ปตท. จะมีการประกาศลดราคาน้ำมันลงมาอีก เพราะราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงประกอบกับมาตรการชดเชยของรัฐบาลที่ยังคงอยู่ ซึ่งในการพูดคุยเห็นว่าควรปล่อยให้ราคาน้ำมันในประเทศเป็นไปตามกลไกตลาด แต่ยังคงตรึงเพดานราคาน้ำมันดีเซลที่ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร และยังคงใช้การชดเชยจากกองทุนน้ำมันอย่างต่อเนื่องไปอีกสักระยะ เนื่องจากยังไม่แน่ใจถึงสถานการณ์โลกกจะหยุดนิ่งอย่างไร ยังไม่เป็นมาตราการอื่นเพิ่มเติมในขณะนี้
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเปิดประเทศ เพราะความพยายามเปิดประเทศอย่างยั่งยืน โดยไม่ให้มีสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่เกิดขึ้นซ้ำเติม จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะหากต้องล็อกดาวน์ขึ้นมาอีก ประชาชนและเศรษฐกิจก็จะได้รับผลกระทบอีก