กรมทางหลวงสรุปแบบโครงการส่วนต่อขยายมอเตอร์เวย์สาย 7 เข้าสนามบินอู่ตะเภา ผุดทางแยกต่างระดับกว่า 2 กม. เชื่อมมอเตอร์เวย์ และถนนสุขุมวิท ค่าก่อสร้าง 4.5 พันล้านบาท เริ่มตอกเข็มปี 65 เปิดปี 68 รองรับเมืองการบิน
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า วันที่ 2 พ.ย. 2564 ทล.ได้จัดการประชุมใหญ่ครั้งที่ 2 (ปัจฉิมนิเทศโครงการ) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา โดยมี ว่าที่ ร้อยตรี พิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธาน ณ ห้องประชุมมรกต และห้องเลิศไพลิน โรงแรมบีซีพี บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อนำเสนอสรุปผลการศึกษาของโครงการ รูปแบบรายละเอียดด้านวิศวกรรม มาตรการป้องกัน แก้ไข ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมการประชุม โดยตามแผนกรมทางหลวงคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2565 และใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 4,508 ล้านบาท และสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2568
จากผลการศึกษาสรุปแนวเส้นทางโครงการมีจุดเริ่มต้นโครงการจากมอเตอร์เวย์สาย 7 บริเวณด่านจัดเก็บค่าผ่านทางอู่ตะเภา ผ่านพื้นที่ของกองพันปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กรมทหารปืนใหญ่ กองพลนาวิกโยธิน และมีจุดสิ้นสุดโครงการที่แนวเขตทางเข้า-ออกสนามบินอู่ตะเภาแห่งใหม่ บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) กม.189+500 รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
และได้มีการออกแบบเป็นทางแยกต่างระดับเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างมอเตอร์เวย์สาย 7 กับสนามบินอู่ตะเภา รวมถึงทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) ในบางทิศทาง
สำหรับรูปแบบทางแยกต่างระดับจะก่อสร้างเป็นทางแยกต่างระดับแบบ Semi-Directional with Loop Ramp โดย Semi-Directional Ramp จะรองรับการเดินทางจาก อ.สัตหีบเข้าสู่สนามบินอู่ตะเภา ส่วน Loop Ramp จะรองรับการเดินทางในทิศทางออกจากสนามบินอู่ตะเภาไป จ.ระยอง
นอกจากนี้ ยังมีการก่อสร้าง On-Off Ramp อีกจำนวน 2 แห่งเพื่อรองรับการเดินทางระหว่างมอเตอร์เวย์ สาย 7 กับทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) โดยสามารถเลี้ยวซ้ายได้อย่างอิสระด้วยการเชื่อมต่อระดับพื้นในทิศทางจาก อ.สัตหีบไปด่านจัดเก็บค่าผ่านทางอู่ตะเภา และทิศทางจากด่านจัดเก็บค่าผ่านทางอู่ตะเภาไป จ.ระยอง
ส่วนมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการฯ จะกำหนดให้ผู้รับเหมาก่อสร้างปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันด้านต่างๆ ในระหว่างการก่อสร้างอย่างเคร่งครัด เช่น การติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย การติดตั้งป้ายเตือน การเพิ่มไฟส่องสว่างในบริเวณที่มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ เพื่อเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้ทางในระหว่างการก่อสร้าง
หลังจากนี้ ทล.จะรวบรวมข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนเพื่อนำไปพิจารณาปรับปรุงการออกแบบรายละเอียด และปรับปรุงมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งแผนปฏิบัติการด้านต่างๆ ให้มีความเหมาะสม ประกอบการจัดทำรายงานสรุปผลการศึกษาของโครงการต่อไป