“ศักดิ์สยาม” รับนโยบาย “นายกฯ” ตรวจความพร้อมสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ยันพร้อม 100% เปิดประเทศ 1 พ.ย. ใช้โมเดล “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เพิ่มความสะดวก-ปลอดภัย ตั้งเป้ามีผู้โดยสารไม่น้อยกว่า 4 หมื่นคนต่อวัน ฟื้นกลับมา 20% จากช่วงปกติ
วันนี้ (20 ต.ค. 2564) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมรองรับนโยบายการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 2564 ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ภาพรวมพบว่าท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ท่าอากาศยานหาดใหญ่ รวมถึงท่าอากาศยานภูเก็ตที่อยู่ในความรับผิดชอบของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. มีความพร้อมในการรองรับการเปิดประเทศตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยใช้โมเดลโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา
จากการตรวจความพร้อมทั้งสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ พบว่าได้กำหนดขั้นตอนต่างๆ อย่างเป็นระบบ โดยระยะเวลาของผู้โดยสารตั้งแต่ลงจากเครื่องบินจนถึงกระบวนการต่างๆ ใช้ระยะเวลาประมาณ 25 นาที/คน ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิคาดว่าจะใช้เวลามากกว่าเล็กน้อยเนื่องจากมีระยะทางจากลงเครื่องบินถึง ตม.ไกลกว่า ทั้งนี้ ภาพรวมเร็วกว่าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ใช้เวลาประมาณ 30 กว่านาที/คน เนื่องจากมีการใช้แอปพลิเคชัน “Thailand Plus” เป็นระบบ AI ไม่ต้องมีเอกสารยืนยันเป็นกระดาษ โดยมีกระทรวงการต่างประเทศรับรอง ทำให้ใช้เวลาตรวจสอบลดลงไปมาก
มีการจัดช่องทางไว้อย่างชัดเจน และหากว่าผู้โดยสารมีความเสี่ยง เช่น มีไข้ ทีมของสาธารณสุขจะมีการแยกผู้โดยสารนั้นออกจากผู้โดยสารอื่นๆ ไม่ให้ปะปน และนำไปตรวจอย่างละเอียด นอกจากนี้ กรณีป้ายบอกทางหรือประชาสัมพันธ์นั้นให้เพิ่มภาษาที่ครอบคลุมนักท่องเที่ยวประเทศที่จะเปิดให้เดินทางเข้ามาด้วย
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในช่วงการเปิดระยะแรกจะมีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองอยู่ที่ 10,000 คน/วัน หรือประมาณ 20% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีผู้โดยสารอยู่ที่ 50,000 คน/วัน ส่วนสุวรรณภูมิ ปัจจุบันมีผู้โดยสารรวมประมาณ 1,000 คน/วัน คาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มเป็น 20,000-30,000 คน/วัน
หากรวมสนามบินทั้ง 6 แห่งเปิดประเทศคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว นักเดินทางกลับเข้ามากว่า 20% หรือมีไม่ต่ำกว่า 40,000 คนต่อวัน ซึ่งจะดู SLOT การบินอีกครั้ง เพราะเป็นช่วงไฮซีซันด้วย คาดว่านักท่องเที่ยวจากยุโรปจะสนใจเดินทางเข้ามา
ขณะเดียวกัน จากการรายงานของสนามบินดอนเมืองพบว่า หากรัฐบาลต้องการเกิดความคล่องตัวในการดำเนินการนั้น อาจจะให้พิจารณารับผล SWAB ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่เกิน 72 ชั่วโมง และหลักฐานการรับวัคซีนครบ 2 โดสมาใช้เป็นหลักเกณฑ์เบื้องต้น ส่วนหลักประกันอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะกำหนดที่ 50,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 100,000 เหรียญสหรัฐ รวมถึงการพิจารณาการขึ้นรถเดินทางไปยังโรงแรมที่พัก เสนอว่าควรจะมีการติดตั้งแผ่นอะคริลิกใสเพื่อกันระหว่างผู้ขับรถกับผู้โดยสาร จากนั้นเมื่อไปถึงที่พัก ถึงเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจหาเชื้อในรูปแบบ ATK หรือ RT-PCR ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อลดความหนาแน่นบริเวณท่าอากาศยาน
นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ท่าอากาศยานดอนเมืองจัดทำลูกศร และป้ายประชาสัมพันธ์เพื่อบอกเส้นทางแก่นักท่องเที่ยวภายในอาคารผู้โดยสารด้วย ก่อนที่จะมีการสรุปการเตรียมความพร้อมในวันที่ 27 ต.ค. 2564 พร้อมทั้งนำข้อเสนอต่างๆ ไปหารือกับที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อนำไปสู่ข้อปฏิบัติที่ชัดเจนต่อไป
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ในส่วนของขาออกจากประเทศนั้น มอบหมายให้ประสานงานกับประเทศปลายทางถึงขั้นตอน และรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้สายการบินที่ประเทศต้นทางดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนการเดินทาง ขณะที่ผู้โดยสารภายในประเทศนั้นจะใช้มาตรฐานเดียวกัน คือ ก่อนการซื้อตั๋วโดยสารจะต้องแสดงหลักฐานหรือเอกสารการได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว และมีการตรวจ SWAB ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง เพื่อความมั่นใจ และความปลอดภัยในการเดินทาง
ทั้งนี้ นโยบายการเปิดประเทศของนายกรัฐมนตรี ซึ่งผ่านที่ประชุม ศบค.เพื่อต้องการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว และเพิ่มกำลังการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศไทย
โดยระยะแรก วันที่ 1 พ.ย. 2564 มีเงื่อนไขการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว และมีการตรวจ SWAB ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ประกอบกับได้มีการจัดหาวัคซีนให้ประชาชนชาวไทย และชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทยมีปริมาณเพียงพอ หรือ 120 ล้านโดสในปี 2564 และอีกกว่า 60 ล้านโดสในปี 2565
สำหรับนโยบายการเปิดประเทศดังกล่าว จะแบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 ระยะ คือ 1 พ.ย. 2564 จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาจากประเทศต้นทางที่ประเมินว่ามีความเสี่ยงต่ำ ให้สามารถเดินทางทางอากาศเข้ามายังประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว ในเบื้องต้นคาดว่าจะมี 10 ประเทศ เช่น อังกฤษ จีน เยอรมนี สิงคโปร์ เป็นต้น ก่อนที่จะขยายผลไประยะที่ 2 ในช่วง ธ.ค. 2564 และระยะที่ 3 ช่วง ม.ค. 2565 ต่อไป
อย่างไรก็ตาม จะนำบทเรียนของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มาปรับปรุงแก้ไข และประยุกต์ใช้กับอีก 5 ท่าอากาศยาน ทั้งเรื่องการอำนวยความสะดวก รวมถึงมาตรการด้านความปลอดภัยทางสาธารณสุข