xs
xsm
sm
md
lg

บางจากโอดล็อกดาวน์ฉุดขายน้ำมัน Q3 หด ตั้งเป้า 5 ปีลงทุน 8.8 หมื่นล้าน เน้นธุรกิจไฟฟ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บางจากเผยไตรมาส 3 นี้ยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการวูบ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์จากมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ ขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นและเทรดดิ้งไปได้สวยจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูง ส่วนธุรกิจไฟฟ้ารับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาวและโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น ตั้งเป้างบลงทุน 5 ปี (65-69) อยู่ที่ 8.8 หมื่นล้านบาท เน้นลงทุนธุรกิจไฟฟ้าสีเขียว

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2564 ธุรกิจโรงกลั่นบางจากยังทรงตัวระดับดี โดยราคาน้ำมันดิบดูไบน่าจะอยู่ในกรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากธุรกิจการบินยังไม่กลับสู่ภาวะปกติทำให้การใช้น้ำมันอากาศยาน (JET) น้อย โรงกลั่นบางจากได้หันมาผลิต UCO มากขึ้นจากเดิม 5% เพิ่มเป็น 10% ของการกลั่นรวม ซึ่ง UCO เป็นสารตั้งต้นในการทำน้ำมันหล่อลื่น ส่วนธุรกิจเทรดดิ้งเติบโตดีอยู่ มี EBITDA ในปีนี้ราว 8-10 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงขึ้นกว่าปีก่อนที่มี EBITDA อยู่ที่ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นรายได้สำคัญอีกรายได้หนึ่งของธุรกิจโรงกลั่นที่ช่วยลดความผันผวนของธุรกิจโรงกลั่นได้

ขณะที่ธุรกิจตลาดในไตรมาส 3 นี้ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ในประเทศ ทำให้ยอดขายน้ำมันลดลง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่ค่าการตลาดทรงตัวในระดับดี โดยบริษัทยังขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันบางจากมีสถานีบริการน้ำมันรวม 1,247แห่ง และสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 1,300 แห่ง โดยปีนี้เป็นปีแรกที่มีสถานีบริการน้ำมันขนาดมาตรฐานสูงกว่าสถานีบริการน้ำมันสหกรณ์ รวมทั้งเปิดสถานีบริการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Unique Design Service Station) เพิ่มเป็น 61 แห่ง จากปัจจุบันอยู่ที่ 39 แห่ง


ส่วนร้านกาแฟอินทนิลมียอดขายเติบโตดี โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่เติบโต 90% โดยตั้งเป้าสิ้นปีนี้มีร้านกาแฟอินทนิลเพิ่มเป็น 800 สาขา และในปีหน้าเพิ่มเป็น 1,000 แห่ง
  
ขณะที่ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Chargers) คาดว่าสิ้นปีจะมี 110-120 แห่ง และบริษัทได้ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคติดตั้งเพิ่มเติม 300 แห่งใน 3 ปีข้างหน้า


นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ธุรกิจโรงไฟฟ้าของ บมจ.บีซีพีจี คาดว่าไตรมาส 3-4 นี้จะมีผลดำเนินงานดีขึ้น โดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาวจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ดีจากปริมาณน้ำฝนที่ค่อนข้างมาก ช่วยชดเชยรายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ผลิตไฟฟ้าได้ลดลงในช่วงฤดูฝน ขณะเดียวกัน ในช่วงปลายปีนี้โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 และจะจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ (COD) รวม 2 โรง ประกอบด้วย Yabuki 20 เมกะวัตต์ (MW) และ Chiba 1 กำลังการผลิต 20 MW ซึ่งจะต่อยอดในธุรกิจโรงไฟฟ้าได้พอสมควร


สำหรับธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ จากราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นคาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ผลประกอบการบริษัท OKEA ซึ่งเป็นบริษัทที่สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ในนอร์เวย์ที่บางจากถือหุ้นอยู่ จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นมาจากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วงปลายกันยายนนี้ OKEA จะเริ่มผลิตน้ำมันดิบครั้งแรกจากแหล่ง Yme ทำให้มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มจากเดิม 1 หมื่นบาร์เรล/วัน เป็น 1.5 หมื่นบาร์เรล/วัน ส่งผลให้บางจากฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนบริษัทดังกล่าว ขณะเดียวกัน ทาง OKEA มองโอกาสการร่วมทุนหรือซื้อกิจการ (M&A) แหล่งปิโตรเลียมในทะเลเหนือเพิ่มเติมด้วย

ส่วนความคืบหน้าการนำ บมจ.บีบีจีไอ หรือ BBGI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะนับหนึ่งไฟลิ่งได้ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นได้ในช่วงไตรมาส 1/2565

บางจากตั้งงบลงทุน 5 ปี (2565-2569) อยู่ที่ 88,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในธุรกิจพลังงานโรงไฟฟ้าสีเขียวของ บมจ.บีซีพีจี คิดเป็นสัดส่วน 73% ของเงินลงทุนทั้งหมดเพื่อเข้าสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (carbon neutral) ให้เร็วที่สุด ที่เหลือจะเป็นการลงทุนในธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพของ บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) 6% ธุรกิจใหม่ (New S-Curve) 6% และที่เหลือลงทุนธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันและธุรกิจการตลาด


กำลังโหลดความคิดเห็น