บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW) เปิดผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 64 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 124% แตะ 89 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ 1,550 ล้านบาท รับอานิสงส์ยอดขายกลุ่มบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นและชิ้นส่วนยานยนต์ฟื้นตัวได้ดี ฟาก "วิวรรธน์ เหมมณฑารพ" บิ๊กบอส ระบุ ปรับกลยุทธ์พร้อมรับมือสถานการณ์โควิด-19 มุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพบริหารต้นทุน รักษาความสามารถทำกำไร เดินหน้ารุกขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์พลาสติกการแพทย์ คาดสร้างรายได้เพิ่ม 300 ล้านบาทต่อปี หนุนอนาคตโตก้าวกระโดด
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนของปี 2564 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่กำไรสุทธิเท่ากับ 39.73 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมเท่ากับ 1,550 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้บริษัทฯสามารถรักษาการทำกำไรไว้ได้ เนื่องจากยอดขายที่เริ่มฟื้นตัวของกลุ่มบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นทั้งส่วนของประเทศไทยและประเทศจีน และส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เริ่มมีคำสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์เข้ามาเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งภาพรวมของยอดขาย 6 เดือนของปี 2564 นั้นเพิ่มขึ้นประมาณ 10.3% เมื่อเทียบกับยอดขายของ 6 เดือนของปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่ได้รับผลกระทบของโควิด-19
"ภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และชิ้นส่วนรถยนต์ในระยะเวลา 6 เดือนแรกค่อนข้างดี ทั้งยอดขายและการควบคุมต้นทุน จากการที่บริษัทฯ ได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเลวร้ายที่สุดในช่วงไตรมาส 2/2563 ซึ่งบริษัทมีนโยบายลดต้นทุน และบริหารประสิทธิภาพกำลังการผลิตจนสามารถมีผลประกอบการเป็นบวก ขณะที่ในปีนี้ยอดขายเริ่มฟื้นตัว และบริษัทยังคงมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนต่อเนื่อง เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากลูกค้า คู่ค้า และโดยเฉพาะจากพนักงานที่มีการติดตามสถานการณ์ และสื่อสารข้อมูลเพื่อให้เกิดต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงบริษัทยังคงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง รวมถึงคุณภาพของสินทรัพย์ โดยเฉพาะลูกหนี้การค้า และสินค้าคงคลัง จึงทำให้ผลประกอบการในปีนี้ออกมาค่อนข้างน่าพอใจ"
ประธานกรรมการบริหารกล่าวอีกว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่โดยรวมในส่วนของยอดขายยังคงอยู่ในระดับที่ดี เมื่อเทียบกับการ Lock Down ที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว โดยเฉพาะตลาดส่งออกเริ่มกลับมาดีขึ้นในส่วนของกลุ่มตลาดน้ำมันและน้ำมันหล่อลื่นและอุตสาหกรรมรถยนต์
อย่างไรก็ตาม แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ แต่บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าสถานการณ์ยอดขายบรรจุภัณฑ์พลาสติกรวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์จะกลับมาเป็นปกติในไตรมาส 4/2564 จึงคาดการณ์ว่าผลประกอบการโดยรวมของบริษัทในปีนี้จะดีกว่าปีที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญ แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของทั้งโลก รวมถึงประเทศไทยอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะขยายธุรกิจเข้าสู่ผลิตภัณฑ์พลาสติกทางการแพทย์ (Medical Plastic Product) โดยได้มีการเซ็น MOU กับบริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมมือและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการใช้งานของบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงด้านการตลาด จัดจำหน่ายและการขาย โดยเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของทั้ง 2 บริษัทจะทำให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์และประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจได้ โดยบริษัทจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ส่วนหนึ่งสำหรับ medical plastic product ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้เป็นต้นไป และคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 300 ล้านบาทในปีหน้า และมีอัตราการเติบโตของรายได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ