อินเตอร์ไฮด์ กำไรสุทธิ 18.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145.05% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อานิสงส์คำสั่งซื้อผลิตเบาะหนังรถยนต์เริ่มฟื้นตัว สอดรับกับอุตสาหกรรมรถยนต์มีสัญญาณที่ดีขึ้น บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลมนอัตราหุ้นละ 0.10 บาท
นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดไตรมาส 2/2564 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 18.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145.05% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 41.31 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 406.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 177.59% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวมเท่ากับ 146.49 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2564 กำไรสุทธิอยู่ที่ 64.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 272.63% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 37.02 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 851.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.99% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 525.69 ล้านบาท
ปัจจัยหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักซึ่งมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และสามารถเดินเครื่องได้ตามกำลังการผลิตปกติที่มีอยู่ ซึ่งมีทิศทางที่ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งมีรายได้จากธุรกิจอื่นๆ เข้ามาสนับสนุนมากขึ้น
“ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2 ของปีนี้ แม้จะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ บริษัทฯ ยังสามารถทำผลงานออกได้ดีต่อเนื่อง เป็นผลจากภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจโลกเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ทำให้ทิศทางการส่งออกมีการขยายตัว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้บริษัทฯ สามารถเดินเครื่องการผลิตได้ตามกำลังการผลิตที่มี รวมทั้งยังสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดี จึงทำให้มั่นใจว่า ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย” นายองอาจ กล่าว
ด้านนายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการ และผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงเดินเครื่องผลิตเบาะหนังรถยนต์ เพราะยังเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักได้ตามปกติ ส่วนธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์ มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 3-4 ราย ขณะที่ธุรกิจฟอกหนังรองเท้า อยู่ระหว่างการนำเสนอสินค้าให้ลูกค้ารายใหม่ ประมาณ 3 ราย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้
สำหรับกลุ่มธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจผลิตภัณฑ์โปรตีน GROW PLUS เริ่มทยอยรับรู้รายได้ และธุรกิจขนมขบเคี้ยวสุนัข ขณะนี้ได้รับใบรับรองมาตรฐาน GMP เพื่อจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว
“หลังจากได้รับใบอนุญาตในการขายขนมขบเคี้ยวสุนัขแล้ว จะทำให้เราสามารถวางจำหน่ายสินค้าในประเทศและส่งออกต่างประเทศได้ ซึ่งธุรกิจขนมขบเคี้ยวสุนัข มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี อีกทั้งยังสามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ อยากให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่า ทั้งธุรกิจเดิม และธุรกิจใหม่ที่ต่อยอดจากธุรกิจหลักจะช่วยสนับสนุนผลงานในปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่ 20% ได้อย่างแน่นอน” นายวศิน กล่าวในที่สุด
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 4/2564 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 59.28 ล้านบาท โดยจ่ายจากกำไรสะสม ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date)ในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 9 กันยายน 2564