xs
xsm
sm
md
lg

บางจากกำไร 6 เดือนแรกพุ่ง 162% หวั่นครึ่งปีหลังการใช้น้ำมันวูบจากโควิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บางจากโชว์กำไร 6 เดือนแรกปี 64 พุ่ง 162% อยู่ที่ 4,048.05 ล้านบาท เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้มีกำไรสต๊อกน้ำมัน 3,773 ล้านบาท และธุรกิจโรงกลั่นมีค่าการกลั่นพื้นฐานทรงตัวในทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น คาดครึ่งหลังปีนี้ความต้องการใช้น้ำมันถูกกดดันจากโควิด-19 ที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยผลการดำเนินงานบริษัทในไตรมาส 2/2564 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,764.55 ล้านบาท ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1,910.72 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 43,775 ล้านบาท และ EBITDA 4,269 ล้านบาท บริษัทมี Inventory Gain 1,171 ล้านบาท

ขณะที่ค่าการกลั่นพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.18 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สาเหตุมาจากการจัดการน้ำมันดิบที่มี Crude Premium อ้างอิงกับน้ำมันดิบเดตเบรนต์ปรับลดลง รวมถึงส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันดิบอ้างอิงของผลิตภัณฑ์ (Crack Spread) ส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น


ส่วนงวด 6 เดือนแรกปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 4,048.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 162 จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 6,571.49 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 85,006 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 มี EBITDA สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9,006 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 737 เป็นผลจากการได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับความคืบหน้าของการกระจายวัคซีน การทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น

โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในครึ่งแรกปี 2564 อยู่ที่ 63.62 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นร้อยละ 56 จากครึ่งปีแรกของปี 2563 ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มี Inventory Gain 3,773 ล้านบาท และธุรกิจโรงกลั่นมีค่าการกลั่นพื้นฐานทรงตัวในทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม OKEA 371 ล้านบาท สูงที่สุดนับตั้งแต่เข้าลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม

ส่วนกลุ่มธุรกิจการตลาดและกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่ได้รับผลกระทบจากความต้องการใช้น้ำมันในประเทศที่ปรับลดลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลับมาระบาดอีกครั้ง โดยเฉพาะความต้องการใช้น้ำมันเครื่องบินที่ยังอยู่ในระดับต่ำ บริษัทฯ จึงได้ทำการปรับโรงกลั่นเป็น Niche Products Refinery นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ท้องตลาด เช่น UCO (Unconverted Oil) มีปริมาณการจำหน่ายเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัวจากไตรมาส 2 ปี 2563 ผลิตสารทำละลาย (Solvent) ภายใต้ชื่อ BCP White Spirit 3040 และยังวางแผนต่อยอดผลิตภัณฑ์หลากหลาย

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 2564 ความต้องการใช้น้ำมันอาจได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดในหลายประเทศกลับมารุนแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะในเอเชีย ทำให้รัฐบาลของแต่ละประเทศกลับมาใช้มาตรการคุมเข้ม ส่งผลกระทบให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงภาพรวมของเศรษฐกิจโลก อีกทั้งการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันทั้งประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น