กรมธุรกิจพลังงานเผยยอดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 7 เดือนแรกของปี 2564 ลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลกระทบโควิด-19 ที่ทำให้การใช้น้ำมันเครื่องบินยังดิ่งหนัก 50.3% ขณะที่รัฐต้องยกระดับการล็อกดาวน์และขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดช่วง 20 ก.ค. ฉุดการใช้เบนซิน ดีเซล NGV LPG (ภาคขนส่ง) พาเหรดลดลงต่อเนื่อง
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 7 เดือนของปี 2564 (มกราคม-กรกฎาคม) ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 3% โดยสาเหตุสำคัญมาจากการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ที่ลดลง 50.3% และการใช้กลุ่มเบนซินที่ลดลง 4.2% สำหรับการใช้กลุ่มดีเซลลดลง 3.4% น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 17.9% น้ำมันก๊าดเพิ่มขึ้น 3.3% ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพิ่มขึ้น 11.3% และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ NGV ลดลง 15.8%
การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.11 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.2% เมื่อพิจารณาปริมาณการใช้กลุ่มแก๊สโซฮอล์พบว่าลดลงมาอยู่ที่ 28.43 ล้านลิตร/วัน ลดลง 3.9% การใช้แก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14.87 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 3.8% ในขณะที่การใช้น้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ อี20 แก๊สโซฮอล์ อี85 ลดลงมาอยู่ที่ 0.69 ล้านลิตร/วัน 7.01 ล้านลิตร/วัน 5.81 ล้านลิตร/วัน และ 0.74 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาการใช้กลุ่มเบนซินเฉพาะเดือนกรกฎาคม 2564 พบว่าการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 25.55 ล้านลิตร/วัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (เดือนมิถุนายน 2564 อยู่ที่ 29.24 ล้านลิตร/วัน) ลดลง 12.6% โดยเป็นการลดลงของทุกชนิดน้ำมันเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยในช่วงต้นเดือนมีการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,000-6,000 ราย/วัน และในช่วงปลายเดือนจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 17,000 ราย/วัน ส่งผลให้ภาครัฐต้องยกระดับมาตรการ Lockdown และขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 20 กรกฎาคม 2564
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 63.22 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.4% สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 36.91 ล้านลิตร/วัน ลดลง 19.9% น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 23.16 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.06 ล้านลิตร/วัน
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเฉพาะเดือนกรกฎาคม 2564 อยู่ที่ 53.62 ล้านลิตร/วัน ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2563 ลดลง 17% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับการงดให้บริการเดินรถโดยสารสาธารณะและการขนส่งสินค้าเข้า-ออกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตั้งแต่ 21 กรกฎาคม 2564 การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.48 ล้านลิตร/วัน ลดลง 50.3% เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่รุนแรงขึ้น และศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ยกระดับมาตรการควบคุมพื้นที่ ส่งผลให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยออกประกาศห้ามสายการบินทำการบินรับส่งผู้โดยสาร เข้าหรือออกพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตั้งแต่ 21 กรกฎาคม 2564
การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 16.61 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 11.3% เนื่องจากการใช้ในภาคปิโตรเคมีที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 7.42 ล้าน กก./วัน หรือเพิ่มขึ้น 26.4% และการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.84 ล้าน กก./วัน หรือเพิ่มขึ้น 14.5% สำหรับภาคครัวเรือนมีการใช้อยู่ที่ 5.62 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้น 3.8% อย่างไรก็ตาม การใช้ในภาคขนส่งลดลงมาอยู่ที่ 1.72 ล้าน กก./วัน ลดลง 15.2% การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.21 ล้าน กก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.8% โดยเป็นผลต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ประกอบกับจำนวนสถานีบริการและรถ NGV ที่ลดลง
การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 900,713 บาร์เรล/วัน ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.9% โดยการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงมาอยู่ที่ 862,264 บาร์เรล/วัน ลดลง 2.7% อย่างไรก็ตาม มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53,306 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 34.5% เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงขึ้น