xs
xsm
sm
md
lg

PTTGC แจงฮุบ allnex ดันรายได้-กำไรปี 65 พุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พีทีที โกลบอล เคมิคอล” ชี้ปี 65 มีรายได้โตขึ้นกว่า10% และมี EBITDA Margin ขยับขึ้น 2% หลังฮุบ allnex ยักษ์ใหญ่ผลิตภัณฑ์ Coating Resins จากเยอรมนี ตอกย้ำฐานะการเงินแกร่ง มีเงินสดในมือ 1 แสนล้านบาท รวมเงินกู้ยืม ปตท.และสถาบันการเงินเพียงพอ โดยไม่ต้องเพิ่มทุนและไม่กระทบการจ่ายปันผล พร้อมเดินหน้า M&A โครงการใหม่เพิ่มเติม

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า การเข้าซื้อกิจการ Allnex Holding GmbH (allnex) ผู้นำระดับโลกในธุรกิจผลิตภัณฑ์ Coating Resins หรือผลิตภัณฑ์กลุ่มสารเคลือบและสารเติมแต่งสำหรับใช้กับวัสดุทุกประเภท ครอบคลุมการใช้งานในหลายอุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่ารวม 4,002 ล้านยูโร หรือประมาณ  1.48 แสนล้านบาทนั้น คาดว่าจะปิดดีลในปลายปี 2564 ทำให้บริษัทรับรู้รายได้และกำไรจาก allnex เข้ามาเต็มปีในปี 2565

ส่งผลให้ปี 2565 PTTGC มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นกว่า 10% จากปีนี้ที่มีรายได้ประมาณ 3.6 แสนล้านบาทที่โตขึ้น 8-10% และมีสัดส่วนกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA Margin) จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2% เนื่องจาก allnex มี EBITDA Margin สูงถึง 17-19% ช่วยดึง EBITDA Margin ของ PTTGC จากเดิม 8-9% ให้เพิ่มสูงขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ผลประกอบการ allnex ในปี 2564 คาดว่ามีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านยูโร หรือ 74,167.2 ล้านบาท (ที่อัตราแลกเปลี่ยน 37.08 บาท ต่อ 1 ยูโร) มี EBITDA อยู่ที่ 400 ล้านยูโร หรือราว 14,832 ล้านบาท และกำไรสุทธิคิดเป็น 50% ของ EBITDA


ทั้งนี้ PTTGC International (Netherlands) B.V. (GC Inter B.V.) บริษัทย่อยของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC ) ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายกิจการ Allnex Holding GmbH (allnex) กับ Allnex Holdings S.à.r.l and Allnex S.à.r.l, (ผู้ขาย) ซึ่งเป็นกองทุนภายใต้การบริหารของ Advent International (Advent) มูลค่าการลงทุนรวม 1.48 แสนล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่จังหวัดภูเก็ต นับเป็นการเข้าซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของ PTTGC โดยปัจจุบัน allnex ยังมีเครือข่ายโรงงานการผลิตอยู่ที่ 33 แห่งใน 18 ประเทศรวมทั้งไทย มีศูนย์การวิจัยและเทคโนโลยีอีก 23 แห่ง มีพนักงานประมาณ 4,000 คนทั่วโลก

นายคงกระพันกล่าวต่อไปว่า บริษัทยังเดินหน้าควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ต่อเนื่อง โดยไม่สามารถตอบได้ว่าปีนี้จะมี M&A เพิ่มเติมหรือไม่ แต่หากมีดีลใหม่ก็ไม่ใหญ่เท่านี้ ซึ่งเร่ง M&A เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มสูง (HVB) เป็น 25% ในปี 2573 การซื้อ allnex ทำให้บริษัทมีสัดส่วน HVB เพิ่มขึ้นใกล้เคียง 20%

สำหรับความคืบหน้าการลงทุนโครงการพลาสติกชีวภาพ ชนิดโพลีแลคติค แอซิด (Polylactic Acid : PLA) ในประเทศไทย คงต้องรอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทของเนเชอร์เวิร์คส์ จากสหรัฐฯ ก่อน คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 เดือนนี้ หลังจากก่อนหน้านี้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนให้กับบริษัท เนเชอร์เวิร์คส์ เอเชีย แปซิฟิก จำกัด ในกิจการผลิต PLA ประมาณ 7.5 หมื่นตันต่อปี

นางสาวภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี PTTGC กล่าวว่า การจัดหาเงินทุนเพื่อซื้อกิจการ allnex ในครั้งนี้ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน และไม่ส่งผลกระทบต่อการจ่ายปันผล เนื่องจากบริษัทมีเงินสดในมือถึง 1 แสนล้านบาท เงินจากการขายหุ้นธุรกิจไฟฟ้า 2.3 หมื่นล้านบาท วงเงินการค้าชำระวัตถุดิบที่สามารถขยายอายุการจ่ายเงินได้อีก 3.2 หมื่นล้านบาท เงินกู้ยืมจาก บมจ.ปตท. ราว 7.39 หมื่นล้านบาท และสถาบันการเงินเสนอปล่อยสินเชื่ออีก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งรายได้จากการดำเนินงานครึ่งปีหลัง คาดว่าอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) หลังซื้อกิจการa llnex อยู่ที่ 0.6-0.7 เท่า


กำลังโหลดความคิดเห็น