xs
xsm
sm
md
lg

EGCO รุก M&A โรงไฟฟ้าที่สหรัฐฯ ลั่นปีนี้คงเป้ากำลังผลิตเพิ่ม 1,000 MW

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ผลิตไฟฟ้า” ยืนยันปีนี้มีกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 1 พันเมกะวัตต์ แย้มเจรจา M&A หลายโครงการทั้งในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ พร้อมจีบพันธมิตรลงทุนแบตเตอรี่ มั่นใจปีนี้รายได้โตตามเป้าสูงกว่าปีก่อน

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ในปีนี้ 1,000 เมกะวัตต์ จากต้นปี 2564 บริษัทได้เข้าซื้อหุ้น 28% ในบริษัท ลินเดน ทอปโก้ (Linden Topco) ซึ่งดำเนินการโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน กำลังการผลิต 972 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 272 เมกะวัตต์ ปัจจุบันบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าอีกหลายโครงการ เน้นประเทศที่บริษัทมีฐานการผลิตอยู่แล้ว รวมทั้งสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างเจรจา 2-3 โครงการ

ปัจจุบันบริษัทมีฐานการลงทุนแล้วใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา


นอกจากนี้ บริษัทได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้นจากเดิม 25% เป็น 30% ภายในปี 2573 เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ของโลก ขณะเดียวกันก็รอความชัดเจนแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2022) เนื่องจากปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศขณะนี้สูงถึง 40% การเติมพลังงานทดแทนในช่วงดังกล่าวอาจยังไม่มีความจำเป็น

สำหรับผลประกอบการบริษัทในช่วงไตรมาส 2/2564 และช่วงครึ่งหลังของปีนี้มั่นใจว่ารายได้ยังคงเติบโตตามเป้าที่วางไว้ โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่า 10% หลังจากผลกระทบโควิด-19 ลดลง ประกอบกับกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เติบโตเพิ่มขึ้น บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตมากกว่าปี 2563 ที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 39,819 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8,738 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทศึกษาโอกาสในการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV Value Chain) ขณะนี้กำลังดูโอกาสความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ทิศทางตลาด และนโยบายของภาครัฐ หากรัฐมีนโยบายสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าชัดเจน ทางภาคเอกชนก็พร้อมที่จะลงทุน ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถ EV ของภูมิภาค

อีกทั้งบริษัทได้หารือพันธมิตรเพื่อลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่ ป้อนโรงไฟฟ้าและรถ EV คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น