xs
xsm
sm
md
lg

“เจดี เซ็นทรัล” ปรับกลยุทธ์สู้คู่แข่ง ดันอีคอมเมิร์ซสู่ 40% ตลาดค้าปลีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - JD CENTRAL เผยยอดผู้ใช้งานในตลาดอีคอมเมิร์ซโตสูงกว่า 20% ปลื้มยอดดาวน์โหลดโต 94% ยอดขายโต 80% ยอดซื้อเฉลี่ยต่อออเดอร์ โต 40% ติดปีกนักชอปมั่นใจ ชูกลยุทธ์ “จอยชัวร์ ตัวจริง” ในทุกมิติ เมื่อมาชอปที่ เจดี เซ็นทรัล “ตัวจริง” เรื่องชอปปิ้ง จัดเต็มกิจกรรมการตลาดครบวงจร

นายก่อลาภ สุวัชรังกูร ประธานบริหารฝ่ายการตลาด JD CENTRAL กล่าวว่า จากผลสำรวจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพบว่า แม้ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 20% ต่อปีแต่ตลาดยังคงมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับตลาดรีเทลทั้งหมดหรือสัดส่วนเพียง 8% เท่านั้นเมื่อเทียบกับประเทศอื่น เช่น จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ที่มีสัดส่วนจากอีคอมเมิร์ซ 40% จากตลาดค้าปลีกรวม ซึ่งตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
 
อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยกว่า 1,000 คน พบว่านักชอปมีความกังวล ‘เรื่องความไว้วางใจ’ เป็นหลัก โดยสิ่งที่นักชอปกังวล 3 อันดับแรกเมื่อต้องซื้อสินค้าออนไลน์ ได้แก่ 1) สินค้าไม่ตรงปก 79%, 2) สินค้าเสียหาย 56% และ 3) ขนส่งล่าช้า 38%


“หากมองถึงสถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจรีเทลและอีคอมเมิร์ซในยุคนี้ เราจะเห็นว่ามีการแข่งขันกันใน 3 แง่มุม ได้แก่ 1) การแข่งขันด้านความครบครันของสินค้า 2) การสร้างความบันเทิงต่างๆ รวมไปถึง 3) การแข่งขันด้านราคาที่ค่อนข้างดุเดือด แต่กลับยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดโฟกัสของเรารวมท้้งตลาดรวมด้วยในการที่จะแข่งขันกันทำตลาด”

ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อของบรรดานักชอปกลุ่มออฟไลน์และไฮบริด คือ1) ดูความนิยมของร้านค้าหรือไปดูสินค้าที่หน้าร้านจริง, 2) หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าและบริการ และ 3) ปัจจัยซื้อหลักจากยอดผู้ติดตาม หรือรีวิวจากผู้ใช้งานจริงบนโซเชียลมีเดีย


นายก่อลาภกล่าวว่า จากประเด็นดังกล่าว ทำให้ทางเจดีเซ็นทรัลได้ทำการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการเปิดให้บริการในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2561 โดย JD CENTRAL จะมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การชอปปิ้งออนไลน์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค มากกว่าการให้ความสำคัญในเรื่องของสินค้าเพียงอย่างเดียว เป็นที่มาของกลยุทธ์ ‘จอยชัวร์ ตัวจริง” พร้อมกับการรุกตลาดนี้ ด้วยการดึงนักชอปที่ยังคงชอปที่หน้าร้านค้าเป็นหลัก หรือที่เราเรียกว่า กลุ่มออฟไลน์ (ชอปหน้าร้านเท่านั้น) และ นักชอปกลุ่มไฮบริด (ชอปออนไลน์บ้างแต่ไม่บ่อย และชอปเฉพาะเว็บไซต์ทางการของแบรนด์) ให้มาซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น โดยในการจะเข้าเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนักชอปนั้น เป็นหน้าที่ของแพลตฟอร์มที่จะต้องศึกษาพฤติกรรมของนักชอปทั้งออฟไลน์ ไฮบริด และออนไลน์ให้รอบด้าน อีกทั้งจะขยายตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย โดยมีลูกค้ากลุ่มหลักอายุเฉลี่ย 18-45 ปี และมีจำนวนร้านค้าเพิ่ม 130% ในไตรมาสแรกปีนี้

JD CENTRAL มีการปรับ brand identity 3 จุดหลัก ดังนี้ 1) ปรับ Brand’s tagline เป็น “จอยชัวร์ ตัวจริง” , 2) ปรับโลโก้ของ JD CENTRAL ให้ดูร่วมสมัยขึ้น และ 3) โปรโมต “JOY” ในฐานะแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ JD CENTRAL เพื่อสร้างการจดจำเกี่ยวกับแบรนด์ และสร้าง brand recall ให้ชัดเจนมากขึ้น


สำหรับผลการดำเนินงาน ปีที่แล้ว (2563) เติบโต 169% กลุ่มสินค้าขายดีเรียงดังนี้ กลุ่มมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์, กลุ่ม เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก, กลุ่มเอฟเอ็มซีจี และกลุ่มเฮลท์แอนด์บิวตี้ ส่วนไตรมาส 1 ปี 2564 JD CENTRAL มียอดดาวน์โหลดและติดตั้งแอปฯ โต 94% มียอดขายโต 80% มียอดการซื้อต่อครั้งโต 40% เฉลี่ยที่ 2,500 บาทต่อบิล 

ส่วนกิจกรรมตลาดและแคมเปญกระตุ้นการขายจะมีต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่ที่สื่อถึงความชัวร์ และจอยในแง่มุมต่างๆ ยังมีโปรฯ แรงสุดแห่งปี “SUPER JOY MID-YEAR GRAND SALE” ลดสูงสุด 90% ปฏิทิน มหกรรมชอปกระหน่ำกลางปีตลอดทั้งเดือน 6 โดยมีโปรฯ ให้ทั้งแบบรวมหมวดหมู่สินค้า และดีลพิเศษแยกตามหมวดหมู่สินค้า ให้นักชอปได้เลือกชอปกันแบบจอยจอยตลอดเดือนนี้ พร้อมแจกคูปองส่วนลดมูลค่ารวมกว่า 2,000 บาท ให้แก่ลูกค้าใหม่ แจกคูปองส่วนลด 50 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 100 บาท และยังมีบริการส่งฟรี เมื่อซื้อสินค้าครบ 99 บาท กิจกรรมความบันเทิงสำหรับนักชอปออนไลน์ ที่ดึงเอาดาราและศิลปินชื่อดัง เช่น กลัฟ คณาวุฒิ, เก้า นพเก้า, อัพ ภูมิพัฒน์​, อ้น ศรีพรรณ และเหล่าเซเลบชื่อดังที่จะมาร่วมสร้างสีสันใน “จอยชัวร์ LiVE TOURNAMENT”




















กำลังโหลดความคิดเห็น