ผู้จัดการรายวัน 360 - ผลประกอบการ บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ หรือหุ้น BEAUTY Q1/64 ขาดทุนลดลง 61.86% คาดการณ์แนวโน้มครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น เดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ พัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ เร่งผลักดันยอดขาย มุ่งเน้นขยายช่องทางจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ
บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) รายงานว่า จากสถานการณ์ของโรคไวรัสโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมาก รวมถึงภาคการท่องเที่ยวก็ยังไม่ดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังไม่มีเข้ามา กำลังซื้อของผู้บริโภคและบรรยากาศการจับจ่ายชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในปี 2563 ต่อเนื่องมาในไตรมาส 1/64 ลดลง
โดยผลประกอบการไตรมาส 1/64 บริษัทฯ มีรายได้รวม 137.41 ล้านบาท ลดลง 49.17% จากช่วงเดียวกันของปี และลดลง 29.21% จากไตรมาส 4/63 สัดส่วนรายได้มาจากต่างประเทศ 44.74% ร้านค้าปลีก 41.39% อีคอมเมิร์ซ 7.23% โมเดิร์นเทรด 2.47% เจเนอรัลเทรด 0.92% อื่นๆ 3.25% และมีขาดทุนสุทธิ 15.13 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 61.86% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
บริษัทมีการปรับกลยุทธ์และแผนธุรกิจตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ ลดต้นทุนการผลิต การขาย และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการลงกว่า 60% ลดขนาดองค์กร ลดปริมาณสินค้าคงคลังลง 132% รักษาสภาพคล่องของเงินสดโดยไม่มีหนี้สินกู้ยืม และมีกระแสเงินสดมากกว่า 400 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมปี 2564 ไว้ 5% และรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 5% โดยมีสัดส่วนรายได้ในประเทศ 62% และต่างประเทศ 38%
บริษัทวางทิศทางธุรกิจ 3 กลยุทธ์ คือ 1. ปรับโครงสร้างบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ (Re-structure) 2. พัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ (Re-model) 3. มุ่งเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีการขยายตัวสูง (Re-new) ปรับกลยุทธ์ตลาดในประเทศ เน้นขยายช่องทางการจำหน่ายที่ขยายตัวสูง ไม่จำกัดเฉพาะการเปิดสาขาร้านค้าปลีก เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากฐานลูกค้าในประเทศเพิ่มขึ้น
แนวโน้มการปรับตัวของธุรกิจ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ตลาดต่างประเทศมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ในสัดส่วน 50% มุ่งเน้นส่งเสริมการตลาดในจีน ร่วมมือกับ Distributor ในประเทศจีนออกงานแสดงสินค้า “China International Beauty Expo Shanghai” เมืองเซี่ยงไฮ้ รวมทั้งพัฒนาโมเดลการขายในต่างประเทศใหม่ “Product License” เพื่อความสะดวกในการพัฒนาสินค้าใหม่ และการบริหารจัดการในประเทศจีน
สำหรับตลาดในประเทศเร่งขยายช่องทางสินค้าอุปโภค กลุ่มสินค้า Fast Moving Consumer Goods ( FMCG ) เจาะกลุ่มผู้ค้าส่งเครื่องสำอางรายใหญ่ในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ ในปีนี้มีแผนแต่งตั้ง Distributor รายใหญ่ 8 รายที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ปัจจุบันแต่งตั้งเรียบร้อยแล้วจำนวน 5 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 5 เขต 49 จังหวัด คือ เขตภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด, เขตภาคตะวันตก 8 จังหวัด, เขตภาคใต้ 14 จังหวัด, เขตภาคตะวันออก 7 จังหวัด และเขตภาคอีสานตอนบน 12 จังหวัด ส่วน 3 รายที่เหลือคาดว่าจะแต่งตั้งแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/64
การพัฒนาสินค้าใหม่ ซึ่งเป็นสินค้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน และสะดวกในการหาซื้อ โดยตั้งเป้าวางจำหน่าย 16,696 ร้านค้าให้แล้วเสร็จใน Q2/64 วางเป้าหมายยอดขายปี 2564 เป็นสัดส่วน 9.2% ของรายได้รวม จากเดิมที่ 1.1% ช่องทางอีคอมเมิร์ซเพิ่มความสามารถการนำเสนอสินค้า โดยสามารถซื้อขายผ่านเว็บไซต์ของบริษัทและระบบแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ชั้นนำต่างๆ เช่น Lazada, Shopee, Konvy เป็นต้น รวมทั้งพัฒนาและบริหารจัดการโครงสร้างระบบอีคอมเมิร์ซให้มีประสิทธิภาพ วางเป้าหมายผลักดันยอดขายในปี 2564 คิดเป็นสัดส่วน 12.5% ของรายได้รวม จากเดิมที่ 4.5%