บางจากเชื่อมั่นยอดขายน้ำมันปี 64 โตกว่าปีก่อน หลังยอดขายเดือน มี.ค. 2564 ทุบสถิติทั้งน้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันหล่อลื่น ลุ้นไตรมาส 2 นี้โกยกำไรจากสต๊อกน้ำมันอีก
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บางจากฯ คาดว่ายอดขายน้ำมันปี 2564 จะเติบโตขึ้นจากปีก่อน หลังจากช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้สามารถทำยอดขายได้เติบโตกว่าปี 2563 โดยในเดือนมีนาคม 2564 ยอดขายทุบสถิติสูงสุดทั้งน้ำมัน น้ำมันหล่อลื่น และกาแฟอินทนิล เนื่องจากประชาชนเริ่มกลับมาทำกิจกรรมต่างๆ ตามปกติหลังโควิด-19 คลี่คลายลง แต่ในช่วงเดือน เม.ย.นี้จะเห็นผลกระทบจากการกลับมาระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 หลังจากเริ่มมีมาตรการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ ดังนั้น ยังต้องติดตามผลกระทบในระยะต่อไป แต่มั่นใจทั้งปียอดขายน้ำมันโตกว่าปีก่อนแน่นอน
ส่วนค่าการกลั่นยังทรงตัวอยู่ที่ 3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลใกล้เคียงไตรมาส 1/2564 จากการที่กลุ่มโอเปกคุมการผลิตได้ดี ขณะที่ปริมาณการผลิตจากแหล่ง Shale Oil ในสหรัฐฯ ลดต่ำลงหลังมีปัญหาทางการเงิน ทำให้มีการนำสต๊อกน้ำมันไว้ก่อนหน้านี้ออกมาใช้เกือบหมด ส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น จากปีก่อนราว 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขึ้นมาแตะ 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในปัจจุบัน ทำให้โรงกลั่นฯ ต่างๆ มีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน ฉะนั้น ธุรกิจโรงกลั่นของบางจากฯ ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้จะยังมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2564 แต่ทั้งนี้คงต้องติดตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะต่อไปด้วย
นอกจากนี้ ทางโรงกลั่นบางจากฯ มีการบริหารจัดการการกลั่นให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หลังจากยังไม่สามารถกลั่นน้ำมันเครื่องบิน (Jet) ได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ปรับมาเพิ่มกำลังผลิต UCO (Unconverted Oil) ทดแทนเพื่อส่งออกทดแทนน้ำมัน Jet และได้ปรับการผลิต UCO เพิ่มขึ้นจากเดิม 4 เท่า หรือมีสัดส่วนอยู่ที่ 10% ของผลิตภัณฑ์ นับเป็นพระเอกในปีนี้ ทำให้ธุรกิจโรงกลั่นฯ ฟื้นตัว
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า บางจากฯ มีการวางแผนธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งแผน 1 และแผน 2 เช่น แผน 1 เป็นการบริหารจัดการระยะสั้น กรณีโควิด-19 คลี่คลายภายใน 2-3 เดือน และแผน 2 กรณีโควิด-19 คลี่คลายใน 4-6 เดือน เป็นต้น รวมถึงประเมินว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะฉีดได้กี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องติดตามดูในช่วงเดือนมิ.ย.นี้ที่จะเริ่มนำเข้าวัคซีนเพิ่มขึ้น ขณะที่สมมติฐานราคาน้ำมันดิบในปีนี้ยังเป็นไปตามที่ตั้งไว้อยู่ที่ 60-62 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันดิบก็ปรับขึ้นไปแตะระดับ 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว ก็เป็นปัจจัยที่หนุนธุรกิจโรงกลั่นในปีนี้
ทั้งนี้ จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย ประชาชนกลับมาเดินทางและใช้รถยนต์เพิ่มมากขึ้น ทำให้ยอดขายผ่านตลาดค้าปลีกเดือนมีนาคม 2564 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 390 ล้านลิตรต่อเดือน และกลุ่มธุรกิจการตลาดสามารถผลักดันยอดขายน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปได้อย่างต่อเนื่อง โดยมียอดจำหน่าย 8.9 ล้านลิตรในเดือนมีนาคมซึ่งถือเป็นยอด New high ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปในประเทศของบริษัทฯ เพิ่มเป็น 11% จาก 9% ในปีก่อนหน้า