“จุรินทร์” หารือนิวซีแลนด์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เห็นพ้องเอเปกขับเคลื่อนการค้าฝ่าวิกฤตโควิด-19 ห้ามจำกัดส่งออกวัคซีน อำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ เผยไทยจะเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีการค้าช่วง 4-5 มิ.ย.นี้ เล็งดันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้านนิวซีแลนด์ขอไทยเพิ่มนำเข้าเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ ส่วนไทยขอนิวซีแลนด์เพิ่มนำเข้าสินค้าทางการแพทย์และผลไม้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือทางโทรศัพท์กับ นายเดเมียน โอ คอนเนอร์ รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและการส่งออกของนิวซีแลนด์ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการโสมสวลี ชั้น 11 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ว่า ปีนี้นิวซีแลนด์เป็นเจ้าภาพการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) และต้องการที่จะออกแถลงการณ์ร่วมผลการประชุมเอเปกในปีนี้ 3 แถลงการณ์ และขอความเห็นตนในฐานะรัฐมนตรีการค้าของประเทศไทย ซึ่งได้แจ้งไปว่าไทยยินดีในการสนับสนุนแถลงการณ์ร่วมทั้ง 3 ฉบับ
สำหรับแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 เป็นแถลงการณ์ร่วมฉบับใหญ่ของรัฐมนตรีการค้าเอเปกทั้งหมด สาระสำคัญประเด็นที่ 1 กำหนดให้การค้าเป็นปัจจัยสำคัญในการที่ช่วยแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ประเด็นที่ 2 เอเปกสนับสนุนการค้าในระบบพหุภาคี โดยเฉพาะในองค์การการค้าโลก (WTO) ประเด็นที่ 3 เอเปกสนับสนุนเศรษฐกิจแบบ BCG คือ ทั้งเศรษฐกิจ Bio Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน
ส่วนแถลงการณ์ฉบับที่ 2 กำหนดให้สมาชิกในกลุ่มประเทศเอเปกจะไม่จำกัดการส่งออกวัคซีนโควิด-19 ยกเว้นมีข้อจำกัดตามที่ WTO กำหนดไว้เท่านั้น เช่น ไม่พอใช้ในประเทศ เป็นต้น และแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ภาคบริการด้านโลจิสติกส์ เอเปกต้องการส่งเสริมความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ สนับสนุนกระบวนการนำเข้าส่งออกผ่านทางด่านต่างๆ ด้วยระบบดิจิทัลในสินค้าที่จำเป็นในสถานการณ์โลกปัจจุบัน ทั้งเครื่องมือแพทย์ วัคซีน อาหาร สินค้าเกษตร หรือสินค้าเครื่องใช้ในบ้านในยุค New Normal
นอกจากนี้ ไทยได้ตอบรับว่าจะเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปกในวันที่ 4-5 มิ.ย. 2564 โดยการประชุมวันที่ 4 มิ.ย. เป็นการประชุมรัฐมนตรีการค้าร่วมกับสภาธุรกิจเอกชนเอเปก ซึ่งการประชุมวันนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ 2. เรื่องการรับมือเศรษฐกิจต่อวิกฤตโควิด-19 และ 3. กลุ่มที่ว่าด้วยการฟื้นตัวเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนหลังสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งไทยประสงค์จะเข้าร่วมในกลุ่มที่ 2 คือ เรื่องการรับมือทางด้านเศรษฐกิจต่อสถานการณ์โควิด-19 ปัจจุบัน และการประชุมวันที่ 5 มิ.ย. เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีโดยเฉพาะของกลุ่มประเทศเอเปก
ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ได้ขอให้ไทยช่วยสนับสนุนการนำเข้าเมล็ดพันธุ์หอมใหญ่ของนิวซีแลนด์ คิดภาษีเป็น 0% ตามความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-นิวซีแลนด์ ซึ่งไทยยังดำเนินการได้ไม่ครบถ้วน โดยจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน ก.ค. 2564 ส่วนไทยได้ขอให้ทางนิวซีแลนด์ช่วยนำเข้าสินค้าที่จำเป็นต่อสถานการณ์โควิด-19 เพิ่มเติมมากขึ้น โดยขอให้นำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์ เช่น ถุงมือยาง ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง ผลไม้ เช่น ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง มังคุด เพราะผ่านการตรวจสอบด้านสุขอนามัยจากนิวซีแลนด์เรียบร้อยแล้ว และทางนิวซีแลนด์ให้การรับรองแล้ว ก็ขอให้นำเข้าเพิ่มเติมเป็นพิเศษนอกจากผลไม้ชนิดอื่นๆ ที่มีการนำเข้าปกติ