xs
xsm
sm
md
lg

“ปลัดพาณิชย์” เตรียมชง “จุรินทร์” หาทางช่วยเหลือภาคเอกชนที่ทำธุรกิจในเมียนมา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปลัดพาณิชย์” หารือภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมในเมียนมา เผยการค้าขายยังเป็นปกติ แต่การทำธุรกิจของคนไทยมีผลกระทบ ทำขาดสภาพคล่อง และพบหลายธุรกิจเสี่ยงหากประเทศสำคัญแซงก์ชัน เตรียมชง “จุรินทร์” ผลักดันมาตรการช่วยเหลือที่ภาคเอกชนขอ ทั้งลดภาษีนิติบุคคล บุคคลธรรมดา ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่แม่สอด

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับภาคเอกชน ทั้งผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และบริษัทเอกชนที่ทำธุรกิจในเมียนมา เพื่อหารือถึงผลกระทบและมาตรการช่วยเหลือว่า เห็นตรงกันว่าภาพรวมการค้าที่ด่านแม่สอด จ.ตาก ยังเป็นปกติ มีการส่งออกนำเข้า มีรถบรรทุกสินค้าวิ่งข้ามไปมาวันละ 700-800 คัน ช่วงพีกๆ มีถึงวันละ 900 คัน ซึ่งต้องติดตามดูต่อไปเพราะตัวเลขการส่งออกในเดือน ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา ลดลงถึง 29% แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นเพราะเหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นหรือไม่ หรืออาจจะเป็นเพราะสาเหตุอื่น

ส่วนการเข้าไปลงทุนทำธุรกิจของคนไทยในเมียนมา โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) พบว่าได้รับผลกระทบ เพราะมีการประเมินว่าเศรษฐกิจของเมียนมาจะชะลอตัวลง และหากการชุมนุมยืดเยื้อก็ยิ่งชะลอตัวทำให้มีผลต่อธุรกิจของคนไทยที่ไปลงทุนเนื่องจากไม่สามารถเปิดทำธุรกิจได้ และปัจจุบันหลายๆ รายขาดเงินสด ขาดสภาพคล่อง และยังมีปัญหาเรื่องแรงงานหยุดงาน การขนส่งในประเทศมีปัญหา

นอกจากนี้ยังมีการประเมินว่าหากประเทศที่มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการค้าโลกใช้มาตรการแซงก์ชันเมียนมา ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อไทย โดยสินค้าบางรายการของไทยที่ไปลงทุนตั้งฐานการผลิตในเมียนมาแล้วส่งออกไปยังประเทศที่แซงก์ชันก็จะส่งออกไม่ได้ หรือธุรกิจที่ต้องใช้เทคโนโลยีจากประเทศที่แซงก์ชัน เช่น ธุรกิจพลังงาน ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย

“จะนำข้อสรุปที่ได้จากการหารือครั้งนี้ และข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนนำเสนอให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อรับทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยข้อเสนอของภาคเอกชน เช่น ขอให้ช่วยเรื่องลดภาษีนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา เพราะการเข้าไปลงทุนแม้จะไปทำธุรกิจในเมียนมา แต่มีรายได้ที่ไทยก็ต้องยื่นเสียภาษี ขอให้พิจารณาประสานสถาบันการเงินปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่ธุรกิจไทยที่ไปลงทุน และขอให้ช่วยประสานฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่แม่สอดโดยเร็วและเพียงพอ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการค้าขาย” นายบุณยฤทธิ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น